หน้าแรก News Marvel Studios ตัวร้ายในสายตาของผู้สร้าง VFX

Marvel Studios ตัวร้ายในสายตาของผู้สร้าง VFX

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีข่าวเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับมาร์เวลในแง่ของการปฏิบัติกับศิลปิน VFX อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งงานหนักเกินไป เวลาน้อย และค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม โดยล่าสุดทาง Vulture ก็ได้เปิดเผยแง่มุมใหม่ๆ ของเรื่องราวเหล่านี้ ผ่านศิลปินไม่เปิดเผยชื่อที่ได้ประสบกับเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเอง

“ตอนฉันทำงานกับหนังเรื่องหนึ่ง มันเป็นเวลาทำงานล่วงเวลาในทุกๆ วันตลอด 6 เดือน ฉันทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ โดยเฉลี่ย 64 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มาร์เวลป้อนงานให้คุณอย่างหนัก เพื่อนร่วมงานข้างๆ ฉันเริ่มพัง ร้องไห้ บางคนถึงกับเกิดความเครียดกับโทรศัพท์”

เขาเล่าว่ามาร์เวลมีอำนาจมากเพราะมีหนังทำเงินถูกสร้างขึ้นมาไม่หยุดหย่อน และถ้าเมื่อไหร่ที่ทำให้มาร์เวลไม่พอใจ พวกเขาก็จะไม่จ้างอีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าก็ต้องรับงานมาร์เวลและทำให้มาร์เวลแฮปปี้ให้ได้ สตูดิโอต่างๆ ก็เลยมักจะแย่งกันประมูลเพื่อให้ได้งาน ทำให้มาร์เวลได้ราคางานค่อนข้างต่ำและนำไปสู่การขาดแคลนพนักงานที่ดูแลโปรเจค เพราะปกติแล้วสตูดิโอหนึ่งๆ มักจะใช้พนักงาน 10 คนต่อหนังหนึ่งเรื่องที่ไม่ใช่หนังมาร์เวล แต่สำหรับหนังมาร์เวลกลับถูกลดเหลือเพียง 2 คน

มาร์เวลยังขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลตลอดการทำงานด้วย เพราะมักขอให้เปลี่ยนแปลงนู่นนั่นนี่มากกว่าที่ลูกค้าคนอื่นๆ เขาทำกัน

“บางทีมันอาจจะเป็นหนึ่งหรือสองเดือนก่อนที่หนังจะเข้าฉาย มาร์เวลจะให้เราเปลี่ยนทั้งองก์สามเลย มันเลยเป็นเวลาที่กระชั้นชิดมากๆ มีบริษัทหนึ่งทำหลายๆ ฉากและหลายๆ ฉากซ่อมไม่ทัน พวกเขาเลยส่งมาให้บริษัทฉัน ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ขึ้นบัญชีดำกับบริษัทนั้นทันที”

ส่วนหนึ่งของปัญหามาจากการที่มาร์เวลมักกำหนดวันฉายไว้ล่วงหน้า ทำให้การถ่ายทำและกระบวนการหลังถ่ายทำไม่สามารถยืดหยุ่นได้ จนบางครั้งก็ต้องใช้เวลาที่กระชั้นชิดกับการทำงานเพื่อนเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนทำหนังที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่

“ลูกค้าอาจจะบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ’ และคุณก็ยังต้องทำมันต่อไป แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ฉะนั้นพวกเขาก็จะแบบว่า ‘คุณลองทำแบบนี้ได้ไหม? ทำแบบนั้นได้ไหม?’ พวกเขาก็อาจจะอยากให้คุณเปลี่ยนทั้งฉาก สภาพแวดล้อมทั้งหมด ในช่วงโค้งสุดท้ายของการทำหนัง”

ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการที่ผู้กำกับหนังมาร์เวลส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็ค หลายคนมาจากการทำหนังอินดี้เล็กๆ และไม่เคยทำงานร่วมกับ VFX ไม่รู้ว่าจะจัดการกับภาพที่ยังไม่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ยังไง จนทำให้หลายครั้งผู้กำกับมักจะขอให้ศิลปินทำเรนเดอร์ภาพความละเอียดสูงๆ ส่งมาให้ในเวลาอันน้อยนิด เนื่องจากไม่สามารถตัดสินใจกับภาพเรนเดอร์ความละเอียดต่ำได้

เขายังยกตัวอย่างกับหนังอย่าง Black Panther ที่มีปัญหาตอนช่วงหลังกระบวนการถ่ายทำด้วยเช่นกัน เนื่องจากปู้กำกับภาพของหนังไม่ได้เข้ามาดูแลในฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง ทำให้ศิลปินต้องด้นสดเอาเอง ทั้งการเคลื่อนไหว มุมกล้อง และการดีไซน์ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ซึ่งส่งผลให้ฉากดังกล่าวออกมาประหลาดและขาดภาษาทางภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิง

โดยบุคคลที่ไม่ประสงค์ออกนามนี้ได้เสนอทางออกให้กับปัญหาที่ด้วย ข้อแรกเลยก็คือมาร์เวลจำเป็นต้องเทรนผู้กำกับเรื่องการทำงานกับวิชวลเอ็ฟเฟ็คและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนกว่านี้ และข้อต่อไปคือการสร้างสหภาพของศิลปิน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสตูดิโอ VFX จะไม่เพียงแค่รับๆ งานไปโดยไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบต่อศิลปินยังไงบ้าง

สุดท้ายเขาชี้แจงว่าปัญหาที่กล่าวๆ มาก็เกิดกับทุกโปรเจคไม่ใช่เฉพาะกับหนังของมาร์เวล แต่บางครั้งพวกเขาก็สามารถพูดคุยต่อรองกับผู้กำกับได้ เพื่อการทำงานล่วงเวลาที่น้อยลง

“คุณสามารถบอกพวกเขาได้ว่า ‘อันนั้นไม่ค่อยเมคเซนส์นะ’ ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่มีอำนาจมากเกินไปแบบมาร์เวล”