ผู้กำกับ ทอดด์ ฟีลด์ ได้เปิดเผยระหว่างสัมภาษณ์กับ The New Yorker ว่า ทอม ครูซ เป็นคนช่วยให้หนังเรื่องแรกของเขา In the Bedroom (2001) รอดจากการแทรกแซงของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ที่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับคดีคุกคามทางเพศจากผู้หญิงจำนวนมาก
ฟีลด์บอกว่าหลังจากที่หนังได้รับการตอบรับอย่างดีในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ในปี 2001 มิราแม็กซ์ บริษัทที่ไวน์สตีนเป็นเจ้าของ ก็เข้ามาซื้อหนัง แต่ก่อนจะฉาย ค่ายกลับบังคับให้เขาตัดต่อเพื่อแก้ไขหนังซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง จนกลายเป็นหนังที่เขาไม่ต้องการ
“ผมกำลังร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ผมโทรหา ทอม ครูซ และพูดว่า ‘มีบางอย่างที่เลวร้ายมากๆ เกิดขึ้น’ เขาเลยบอกว่า ‘ที่คุณต้องทำคืองี้นะ มันจะใช้เวลาทั้งหมดหกเดือนและคุณก็จะชนะเขาได้ในที่สุด แต่คุณต้องทำสิ่งที่ผมจะบอกไปทีละขั้นตอน'”
ครูซบอกให้ฟีลด์รับฟังคำแนะนำทั้งหมดของไวน์สตีน แต่พอหนังได้การตอบรับย่ำแย่จากรอบทดลองฉาย ฟีลด์ก็มีหน้าที่เตือนความจำไวน์สตีนว่าหนังได้รับเสียงชื่นชมจากคนที่ชมหนังในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์มากเพียงใด เพื่อให้ไวน์สตีนตัดสินใจกลับไปใช้ภาพยนตร์ต้นฉบับ
แน่นอนว่าคำแนะนำของครูซได้ผล มิราแม็กซ์เอาหนังฉบับเดิมไปฉาย ก่อนจะทำรายได้มากกว่าทุนสร้างถึง 25 เท่า แถมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีก 5 สาขา หนึ่งในนั้นคือสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ฟีลด์ยังบอกด้วยว่าครูซเป็นคนแรกที่ยืนกรานว่าเขาควรเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ หลังจากที่เขาเล่าให้ครูซฟังว่าเขาอยากดัดแปลงหนังสั้นในปี 1979 ของ แอนเดอร์ ดูบัส เป็นหนังยาว แต่เขาอาจไม่ได้สิทธิ์การสร้าง ครูซจึงให้กำลังใจเขาด้วยคำง่ายๆ ว่า “คุณกำลังจะสร้างภาพยนตร์ คุณแค่หาข้ออ้าง คิดให้ออกสิ” ซึ่งภายหลังฟีลด์ก็ได้สิทธิ์การสร้างมาจริงๆ จนกลายเป็นหนัง In the Bedroom ในที่สุด
ปัจจุบันฟีลด์มีงานล่าสุดเป็นหนัง Tár ที่รับบทนำโดย เคท แบลนเชตต์ ซึ่งได้รับคำชมอย่างล้นล้ามและเข้าชิงรางวัลมากมายเช่นกัน