ล่าสุด ฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ ได้ดึงตัว เจมส์ แมนโกลด์ ผู้กำกับที่เพิ่งสร้างความสำเร็จมาหมาดๆกับ Ford v Ferrari ให้มากำกับหนังชีวประวัติของของ บ็อบ ดีแลน โดยได้หนุ่มหน้าหวาน ทิโมธี ชาลาเมต มารับบทหนึ่งในนักดนตรี-นักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการเพลงโฟล์กป็อป
หนังจะเล่าเรื่องราวของ บ็อบ ดีแลน ในช่วงเวลาที่เขาเตรียมพร้อมจะกลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของวงการดนตรีโฟล์ก ต่อมาดีแลนหันมาเล่นเพลงร็อคแอนด์โรล ขายกีตาร์โปร่งเพื่อให้ได้มาซึ่งแอมป์กับกีตาร์ไฟฟ้า มันได้สร้างเสียงกึกก้องกังวาล และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการเพลงร็อค
บ็อบ ดีแลน ตัวจริงจะร่วมทำงานเซิร์ชไลท์และ เจมส์ แมนโกลด์ เพื่อสร้างหนังเรื่องนี้ออกมา กระนั้น หนังก็ยังไม่มีชื่อทางการ แต่ปัจจุบันถูกเรียกชื่อว่า Going Electric
ยังไม่ชัดเจนว่าชาลาเมตจะร้องเพลงของ บ็อบ ดีแลน ด้วยตัวเองหรือไม่ แต่รายงานบอกว่าเขาได้ลงเรียนกีตาร์เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับทั้งกีตาร์ไฟฟ้าและกีตาร์โปร่ง
บ็อบ ดีแลน ได้รับการยกย่องในฐานะนักร้อง-นักแต่งเพลงอะคูสติคทรงอิทธิพลมากที่สุดในอายุ 19 ปี ซึ่งดูเหมือนจะเดินตามรอยเท้าของผู้เป็นตำนานอย่าง วูดดี้ กูธรี และ ปีเตอร์ ซีเกอร์ แต่หลังจากที่เขาขึ้นแสดงที่ นิวพอร์ท โฟล์ก เฟสติวัล ในวันที่ 25 กรกฎาคม 1965 ความขัดแย้งก็ปะทุขึ้น นักดนตรีโฟล์กหลายคนตีตราดีแลนว่าเป็นคนทรยศและพยายามให้เขาเลิกเล่นเพลงร็อค จนเหตุการณ์ที่ว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ลงรอยกันระหว่างเพลงโฟล์กกับดนตรีร็อคที่กำลังเติบโต แต่มีหลายคนที่ชื่นชมการวิวัฒน์ของเขา ผู้ที่ได้สร้างตำนานเพลงร็อคอีกเพลงอย่าง “Like a Rolling Stone” โดยหนังคาดว่าจะวนเวียนในเรื่องราวของ ดีแลน กับการประจันหน้ากับตำนานยุค 60 อย่าง โจน ไบซ์, ปีเตอร์ ซีเกอร์ และคนอื่นๆที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น
การเจรจากับ ทิโมธี ชาลาเมต เริ่มหลังจากเขาได้รับคำชมดีเยี่ยมจากหนัง Little Women ของ เกรต้า เกอร์วิก และกำลังจะมีผลงานต่อไปเป็น 4,000 Miles ละครเวทีครั้งแรกของเขาที่ทำกับ เอมี่ เฮอร์ซ็อก ผู้เข้าชิงรางวัลพูลอิทเซอร์ การแสดงจะเริ่ม 16 เมษายนและสิ้นสุด 23 พฤษภาคมนี้ คาดว่า Going Electric จะเริ่มถ่ายทำหลังจากนั้น
ชาลาเมตยังร่วมแสดงในหนัง The French Dispatch ของ เวส แอนเดอร์สัน ด้วย หนังยังไม่มีกำหนดถ่ายทำและวันฉาย ขณะเดียวกันเร็วๆนี้เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Dune หนังไซไฟของผู้กำกับ เดอนีส์ วิลเนิฟ วางกำหนดฉาย 18 ธันวาคมนี้