หน้าแรก News “ผมอยากจะขุดเขาขึ้นมาแล้วฆ่าเขาอีกรอบ” ผู้กำกับภาพ The Matrix พูดถึงอิทธิพลที่ สแตนลีย์ คูบริก มีต่อหนัง

“ผมอยากจะขุดเขาขึ้นมาแล้วฆ่าเขาอีกรอบ” ผู้กำกับภาพ The Matrix พูดถึงอิทธิพลที่ สแตนลีย์ คูบริก มีต่อหนัง

นอกจาก The Matrix 4 จะเป็นการกลับมาทำงานร่วมกันของมือเขียนบทและผู้กำกับ ลาน่า วาชอว์สกี กับนักแสดงนำอย่างเคียนู รีฟส์ และแครี่-แอน มอส แล้ว ผู้กำกับภาพ บิล โป๊บ จากภาค Reloaded และ Revolutions ยังกลับมาทำหน้าที่เดิมด้วย

ซึ่งในระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ  Team Deakins ร่วมกับโรเจอร์ ดีกินส์ โป๊บก็ได้เปิดเผยความยากลำบากในการถ่ายทำหนังภาคก่อนหน้านี้ที่ทำให้เขาและทีมงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด

“ทุกเรื่องดีๆ ในภาคแรกกลายเป็นเรื่องไม่ดีในภาคสอง เราไม่มีอิสระอีกต่อไป ทุกคนจะจ้องมาที่คุณและกดดันอย่างหนัก ในหัวใจของผม ผมไม่ชอบเลย ผมรู้สึกว่าผมควรหันไปทำอย่างอื่น มันมีแรงเสียดทานและปัญหาส่วนตัวเยอะมากและมันก็จะปรากฎขึ้นบนจอภาพยนตร์อย่างตรงไปตรงมา มันไม่ใช่จุดสูงที่สุด ไม่กับทั้งคนอื่นๆ พี่น้องวาชอว์สกีอ่านหนังสือของ สแตนลีย์ คูบริก เฮงซวยนั่นที่บอกว่า ‘นักแสดงจะเล่นไม่เป็นธรรมชาติจนกว่าพวกเขาจะเหนื่อย’ เย้ งั้นเรามาถ่าย 90 เทคกันเถอะ! ผมล่ะอยากจะขุด สแตนลีย์ คูบริก ขึ้นมาแล้วฆ่าเขาอีกรอบ”

โป๊บกล่าวต่อว่าพี่น้องวาชอว์สกีใช้วิธีถ่ายหลายๆ เทคตามคำแนะนำของคูบริกใน Matrix ภาค 2 และ 3 (ที่ถ่ายทำต่อเนื่องกัน) จนทำให้การไปทำงานเหมือนกับการทรมานตัวเอง เพราะเขาจะต้องถ่ายฉากเพียงฉากเดียว 90 เทค ก่อนที่จะย้ายไปถ่ายอีกฉาก 90 เทค ซึ่งเป็นแบบนี้ซ้ำๆ อยู่หลายครั้งจนเขาเชื่อว่าไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมานอกจากความเหนื่อยล้า

“มันมีสิ่งที่ทำให้การถ่ายทำยาวถึง 276 วัน ซึ่งก็คือหัวจิตหัวใจที่ด้านชา และมันก็ทำหนังหนังเป็นแบบนั้นด้วย คุณคงนึกถึง The Hobbit ที่พวกเขาถ่ายสามภาครวดและหนังพวกนั้นก็ด้านชาไปหมด ในหนังสือคุณไม่รู้สึกแบบนั้นเพราะคุณหยิบมันขึ้นมาและก็วางมันลงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สำหรับหนังที่ถ่ายนานเกินไป มันมีขีดจำกัดที่เราจะรับได้อยู่”

อย่างไรก็ดีโป๊บก็ยังรู้สึกดีใจที่เขาได้มีโอกาสร่วมทำหนัง The Matrix ขึ้นมา “ผมเพิ่งทำหนังเป็น 4K ให้วอร์เนอร์ฯ และเขียนถึงวาชอว์สกีและเคียนูและแครี่ว่าพวกเราทำได้ดีมาก เราควรภูมิใจกับมัน”