สงสัยไหมว่าทำไมหนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ถึงใช้ชื่อว่า Tenet ซึ่งเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในหนัง ซึ่งหลักๆ มาจากตัวละครของ มาร์ติน โดโนแวน มอบภารกิจสำคัญให้กับตัวเอก (จอห์น เดวิด วอชิงตัน)
ตัวละครของโดโนแวนบอกตัวเอกว่า โลกกำลังตกอยู่ในอันตรายจากสงครามที่มีชาวรัสเซียนามว่า อันเดร เซเตอร์ (เคนเนธ บรานาห์) เป็นตัวการ และตรงนี้เองที่ตัวเอกได้รับเบาะแสเพียงสองอย่าง นั่นคือคำว่า Tenet กับท่าทางของนิ้วมือทั้งสองข้างที่ประสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
แล้ว Tenet มีความหมายว่าอะไรกันแน่? หากเอาตามพจนานุกรมมันแปลว่า “ความเชื่อทางศาสนาหรือการเมือง” แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น เพราะคำว่า Tenet คือพาลินโดรม ซึ่งหมายถึงคำที่สามารถอ่านได้แบบเดียวกันไม่ว่าจะอ่านจากหน้าไปหลัง หรือหลังไปหน้า และนี่สิ่งนี้เองคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้โนแลนตัดสินใจใช้คำว่า Tenet เป็นชื่อของหนัง
**ต่อไปนี้บทความจะเปิดเผยเนื้อหาของหนัง**
ในช่วงไคลแมกซ์ของหนังที่ตัวเอกและทีมปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งมี นีล (โรเบิร์ต แพททินสัน) และอีฟส์ (แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน) อยู่ในทีม พยายามที่จะหยุดการทำงานของอุปกรณ์ที่จะทำให้เกิดวันสิ้นโลก หรือที่หนังเรียกว่าอัลกอริทึม
เพื่อจะภารกิจให้สำเร็จ อีฟส์จึงต้องแบ่งทีมออกเป็น 2 ทีม ได้แก่ “ทีมน้ำเงิน” ที่จะเดินเข้าประตูหมุนเพื่อเดินทางสวนเวลาใน 1 ช่วงโมงก่อนหน้าก่อนที่ “ทีมแดง” จะลงมาทำภารกิจ เพื่อให้พวกเขาไปเจอสิ่งที่ “ทีมแดง” จะเจอตอนมาถึง เพราะว่า “ทีมน้ำเงิน” จะสามารถสรุปให้ “ทีมแดง” ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นและอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
ซึ่งนี่หมายถึง ในนาทีที่ 50 ของทั้งสองทีม พวกเขาจะทำงานตีคู่เพื่อป้องกันไม่ให้อัลกอริทึมของเซเตอร์เปิดใช้งาน ก่อนที่ “ทีมน้ำเงิน” จะเข้าไปในห้องหมุนเพื่อกลับไปยังเส้นเวลาปกติ
เนื่องจากทั้งสองทีมทำภารกิจเป็นเวลา 1 ชั่วโมงที่แยกจากกัน ในนาทีที่ 50 พวกเขาทั้งสองทีมจะมีเวลา 10 นาทีเท่านั้นในการทำภารกิจให้สำเร็จ โดยที่ “ทีมน้ำเงิน” ที่จะเดินทางสวนเวลาไปยังจุดทางเข้าเหมือง ในขณะที่ “ทีมแดง” จะเดินทางตามเวลาไปเจอ “ทีมน้ำเงิน” ที่จุดทางเข้าเหมืองเหมือนกัน หรือก็คือ ten สองตัวที่ประสานเข้าด้วยกัน เหมือนกับมือของผู้มอบภารกิจให้ตัวเอก
ten ที่เดินทางตามเวลา และ ten ที่เดินทางสวนเวลา ในคำว่า Tenet
