ในวันจันทร์ที่ผ่านมามีรายงานว่า เดวิด เบนิออฟ และ ดี. บี. ไวส์ คู่หูผู้สร้าง Game of Thrones ได้ออกจากโครงการหนัง Star Wars ไตรภาคใหม่ เนื่องจากวิสัยทัศน์ไม่ตรงกับลูคัสฟิล์ม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างผู้สร้างกับสตูดิโอ ได้แก่ จอช แทรงค์, โคลิน เทรเวอร์โรว์, ฟิล ลอร์ และ คริส มิลเลอร์ แม้ว่าประเด็นวิสัยทัศน์ไม่ตรงกันจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฮอลลีวูด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับลูคัสฟิล์มจึงทำให้เกิดคำถามขึ้นในหมู่แฟนๆ ว่าอนาคตของแฟรนไชส์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต
รายงานของวาไรตี้ระบุว่า เมื่อ แคธลีน เคเนดี้ ประธานลูคัสฟิล์มเสนอหนัง Star Wars ให้กับผู้สร้างต่างๆ พวกเขามักมาพร้อมกับมาตรการควบคุมความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ไอเดียใหม่ๆ มักถูกปัดตกเนื่องจากเคเนดี้และทีมงานต้องการคนที่เดินอยู่บนเส้นที่พวกเขาวางไว้เท่านั้น ซึ่งหากข้อขัดแย้งเกี่ยวกับทิศทางหนังรุนแรงเกินกว่าจะควบคุม พวกเขามักจะเชิญออกจากโครงการมากกว่าจะหาจุดร่วม
หลังจากที่ เดวิด เบนิออฟ และ ดี. บี. ไวส์ ปิดฉากมหากาฬ Game of Thrones พวกเขามีแผนอันทะเยอทะยานที่จะนำจักรวาล Star Wars ไปในทิศทางใหม่ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากมหากาฬกระกูลสกายวอล์คเกอร์ โดยให้ความสนใจในการกลับไปเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของเจได ทว่าลูคัสฟิล์มกลับเล็งเห็นวิสัยทัศน์ที่ไม่ตรงกันระหว่างร่วมประชุมในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันข้อตกลงมูลค่า $250 ล้านระหว่างเบนิออฟและไวส์กับเน็ตฟลิกซ์ก็ได้สร้างแรงกดดันให้กับทั้งคู่
เนื่องจากการแยกทางกับสองผู้สร้างครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ทางสตูดิโอเริ่มเรียกประชุมกับนักเขียนคนอื่นๆ ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการหาเรื่องราวใหม่ให้แฟรนไชส์นี้หรือไม่ แต่แน่นอนว่าการแยกทางกันครั้งนี้ทำให้เกิดอนาคตที่ไม่แน่นอนสำหรับจักรวาล Star Wars เนื่องจาก เจ.เจ. เอบรามส์ ได้ทำข้อตกลงสร้างเนื้อหาให้กับวอร์เนอร์ฯ หมายความว่าเขาจะไม่ได้กลับมาทำหนัง Star Wars อีก ส่วน ไรอัน จอห์สัน (The Last Jedi) ที่ยังยืนยันว่ายังได้ทำหนังไตรภาคแยกของ Star Wars ด้วยอิสระทางความคิดสร้างสรรค์แต่ยังอยู่ในครรลองของเคเนดี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าดำเนินงานสร้างไปถึงไหนแล้ว
แหล่งข่าวยังบอกอีกว่าเนื่องจากกรณีแง่ลบที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่าผู้สร้างหนังเริ่มระวังตัวกับการทำงานในแฟรนไชส์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท้ายที่สุดต้องโดนเลิกจ้าง ขณะเดียวกันเมื่อ เควิน ไฟกี ประธานมาร์เวลสตูดิโอจะเข้ามาทำหนัง Star Wars แบบสแตนอโลน จึงมีการคาดการณ์ว่าไฟกีอาจนำมาใช้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับลูคัสฟิล์ม แต่คนวงในกลับบอกว่ายังไม่มีแผนการที่จะให้ไฟกีมีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์กล่าวว่าแบรนด์ Star Wars จะยังคงรับมือกับปัญหาดราม่าหลังกล้องได้ เพราะที่ผ่านมาหากจะมีปัญหาอยู่บ้างแต่หนังส่วนใหญ่ก็ยังสามารถทำเงินและประสบความสำเร็จได้