หน้าแรก Trivia ลีโอเป็นพระเอก, เซ็กส์บนสะพาน และตอนจบที่คาดไม่ถึง เผยบทหนัง Spider-Man ที่ไม่ได้สร้างของ เจมส์ คาเมรอน

ลีโอเป็นพระเอก, เซ็กส์บนสะพาน และตอนจบที่คาดไม่ถึง เผยบทหนัง Spider-Man ที่ไม่ได้สร้างของ เจมส์ คาเมรอน

ก่อนที่จะมีหนัง Spider-Man ที่ถูกสร้างใหม่ถึงสามรอบ จนกระทั่งเรื่องล่าสุดอย่าง Spider-Man: No Way Home ที่กำลังจะฉายในประเทศไทยวันที่ 23 ธันวาคมนี้ บางคนอาจไม่ทราบว่า เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับระดับตำนานจาก Terminator และ Alien เคยคิดจะทำหนัง Spider-Man แถมเขียนบทออมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วด้วย แต่ทว่าโครงการกลับถูกเก็บเข้ากรุในปี 1990 ไปอย่างน่าเสียดาย

คาเมรอนเคยเขียนบทหนัง Spider-Man ไว้สองแบบ ฉบับแรกเกี่ยวกับ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในวัยมหาลัยที่มี ดอกเตอร์ ออโตปุส เป็นวายร้ายหลัก ส่วนฉบับอยู่ในวัยมัธยมที่สองมีอิเล็คโตร และแซนด์แมน เป็นวายร้ายหลัก

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เกือบได้สวมชุดรัดรูป

แม้ว่าหนัง Spider-Man ของคาเมรอนจะไม่เคยได้เข้าใกล้คำว่าถ่ายทำ แต่เขาเคยเล็งคนที่จะมารับบทเป็นปาร์คเกอร์อยู่สองคน คนแรกคือ ไมเคิล เบห์น (The Terminator, Aliens) ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุ 30 ปี แต่พอบทหนังโฟกัสไปที่ปาร์คเกอร์ที่เด็กกว่า คาเมรอนเลยหันความสนใจไปที่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Titanic) แต่ก็มีรายงานว่าดิคาปริโอกับคาเมรอนคุยถึงหนังเรื่องนี้กันอยู่สองสามครั้งเท่านั้น

อิเล็คโตรเป็นมหาเศรษฐี

ในหนังที่มีอิเล็คโตรและแซนด์แมนเป็นวายร้ายหลัก คาเมรอนได้เปลี่ยนปูมหลังของอิเล็กโตรไปอย่างมหาศาล จากชายชื่อ แม็กซ์เวลล์ ดิลลอน วิศวกรไฟฟ้าที่ถูกไฟช็อกระหว่างทำงานกลายเป็น คาร์ลตัน สแตรนด์ นักธุรกิจผู้ร่ำรวยที่เคยเป็นโจรผู้ต่ำต้อย เขาได้พลังมาจากตอนหนีตำรวจจนไปเจองานศิลปะ The Lightning Field ท่ามกลางพายุฝนและมีฟ้าผ่าลงมาที่เขา จนทำให้เขาสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าและควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกได้

สิบปีให้หลัง อิเล็คโตรสนใจที่จะรวบรวมคนที่มีพลังพิเศษมาอยู่ด้วยกัน ก่อนที่จะได้แซนด์แมน หรือ “บอยด์” พนักงานซ่อมบำรุงในโครงการลับทางทหารที่นักวิทยาศาสตร์กำลังทำการทดลองเกี่ยวกับ Bilocation (การปรากฏตนในสองสถานที่) แต่มีบางอย่างผิดพลาด การทดลองเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้ร่างกายของบอยด์ถูกแปรสภาพเป็นทราย เขาจึงใช้พลังนั้นออกไปปล้นธนาคาร จนกระทั่งอิเล็คโตรเข้ามาชวนเขาเข้าร่วมทีม

สไปเดอร์แมนถูกชวนเข้าร่วมทีมวายร้าย

หลังจากนั้น อิเล็คโตรได้ไปเห็นสไปเดอร์แมนในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งเข้า (หนึ่งในงานเสริมของปาร์คเกอร์) เขาเลยสนใจชวนสไปเดอร์แมนรวบรวมคนด้วยอีกคน แต่สไปเดอร์แมนปฏิเสธข้อเสนอ เขาเลยยื่นให้อีกครั้ง และครั้งนี้คือเงิน $250 ล้าน แต่สไปเดอร์แมนก็ปฏิเสธเขาอีหน อิเล็คโตรเลยผิดหวังมาก เขาจึงลักพาตัว แมรี่ เจน และเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่

ศึกแรกเป็นของสไปเดอร์แมนและแซนด์แมนที่จบตรงที่แซนด์แมนโดนระเบิดของอิเล็คโตรจนกลายเป็นรูปปั้นแก้ว สุดท้ายสไปเดอร์แมนก็ปิดฉากอิเล็กโตรได้สำเร็จ เขาเหวี่ยงอิเล็กโตรไปชนกับตึกจนร่างกายแตกสลาย สไปเดอร์แมนเปิดหน้ากากออกมาให้อิเล็คโตรเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา อิเล็คโตรตกใจมากเมื่อได้รู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้เด็กมัธยม ก่อนที่กระอักเลือดตายในที่สุด

ตอนจบสไปเดอร์แมนได้แจกจ่ายเงินของอิเล็คโตรให้กับผู้คนทั่วเมืองนิวยอร์ก แล้วเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อ แมรี่ เจน ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะต้องเรียนคนละมหาลัย แต่พวกเขายังคงนัดเจนกันในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนที่จะเอ่ยคำลากับผู้ชมว่า “เพื่อนบ้านที่แสนดีสไปเดอร์แมน” และออกโลดแล่นในยามค่ำคืน

ความสมจริงที่คาดไม่ถึง

บทหนัง Spider-Man ของคาเมรอนมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าฉบับที่เราเคยดูอย่างมาก เช่น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นคนที่เคร่งขรึมและขี้หงุดหงิด (มีบทที่เขาพูดว่า “ถ้าแกโผล่หน้าที่ไร้ค่าของแกมาแถวนี้อีกละก็ ฉันจะเอาลำไส้แกมาแต่งต้นคริสต์มาสของฉันซะ”) แถมยังเคยเรียกอิเล็คโตรว่า “ไอ้เย็ดแม่” ด้วย

ความโหดนั้นทำให้ผู้คนเริ่มต่อต้านเขา (หนึ่งในนั้นคือ เจ โจนาห์ เจมสัน ที่ช่วยสุมไฟให้) เขาเลยหมุกมุ่นอยู่กับกระแสต่อต้านและทำให้โจรขโมยของที่เป็นเด็กคนหนึ่งตกบันไดหนีไฟตาย สไปเดอร์แมนเลยตกอยู่ในจุดต่ำสุด เขากลายเป็นอาชญากรและลงมือขโมยเงินของพ่อค้ายา แต่ในตอนท้ายเขาก็เลือกแจกจ่ายเงินนั้นให้ผู้คนแทนที่จะเก็บไว้กับตัว

นอกจากนี้ สไปเดอร์แมนยังเคยเต้นท่ายั่วยวน แมรี่ เจน ซึ่งเป็นการเลียนแบบการเกี้ยวพาราสีของแมงมุม ก่อนที่เขาจะผูกเธอไว้บนสะพานบรูคลินด้วยใยแมงมุมและมีเซ็กซ์กันบนนั้น

สุดท้ายก็ไม่ได้สร้าง

คาเมรอนใช้เวลาอยู่หลายปีพัฒนาหนัง Spider-Man ขึ้นมาในช่วงของการทำหนัง Terminator 2: Judgment Day และ Titanic กระทั่งมาร์เวลขายสิทธิ์ตัวละครให้กับแคนนอนฟิล์ม ภายหลังเขาโน้มน้าวให้สตูดิโอที่ทำ Terminator 2 เข้าซื้อสิทธิ์อีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนถูกโซนี่ซื้อไปในที่สุด