สการ์เล็ต โจแฮนสัน เคยรู้สึกว่าอาชีพนักแสดงของเธอถึงจุดจบแล้ว เพราะถูกด้อยค่าให้เล่นแต่บท “คนเสพติดเซ็กส์”

ระหว่างออกรายการพอดแคสต์ Armchair Expert สการ์เล็ต โจแฮนสัน ได้เปิดใจถึงความกังวลที่เธอมีสมัยยังวัยรุ่น นั่นคือการถูกจำกัดให้เล่นแต่บทคนเสพติดเซ็ก​ส์ จนทำให้คิดไปว่าอาชีพของเธอคงถึงจุดจบแล้ว

“ฉันกลายเป็นวัตถุและถูกด้อยค่าจนฉันไม่ได้งานที่ฉันอยากจะทำ ฉันจำได้ว่าฉันคิดกับตัวเองว่า ‘คนคิดว่าฉันอายุ 40 แน่เลย’ มันหยุดสิ่งที่น่าเป็นที่พึงปรารถนาเอาไว้และสิ่งที่ฉันกำลังต่อสู้อยู่ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง”

“เพราะฉันคิดว่าทุกคนนึกว่าฉันแก่กว่าพวกเขา และฉันแสดงหนังมานานมาก ฉันถูกด้อยค่าให้เล่นแต่บทคนเสพติดเซ็กส์ ฉันรู้สึกว่าอาชีพฉันถึงจุดจบแล้ว มันเหมือนกับว่า ‘อาชีพของคุณมันก็เป็นแบบนี้แหละ บทพวกนั้นที่คุณเคยเล่นมา’ ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกว่า ‘มันจบแล้วใช่ไหม?’

ปัจจุบันโจแฮนสันอายุ 37 ปีแล้ว เธอเริ่มทำงานการแสดงตั้งแต่อายุ 9 ขวบในหนังเรื่อง North ปี 1994 และได้แสดงหนังเรื่อยมาจนอายุได้ 20 กว่าๆ ช่วงเวลาที่เธอได้รับบทเป็น “วัตถุทางอารมณ์” เช่น Match Point ของ วูดดี้ อัลเลน และ The Black Dahlia ของ ไบรอัน เดอ ปาลมา ซึ่งเธอบอกว่าช่วงเวลานั้นมันช่าง “น่ากลัว” เพราะคิดว่าเธอจะไม่มีวันได้ก้าวหน้าเกินไปกว่าบทบาทเหล่านั้น

แต่หลังจากได้รับบท นาตาชา โรมานอฟ ในหนัง Iron Man 2 ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โจแฮนสันกลายเป็นนักแสดงหนึ่งในหนังที่ทำรายได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในฮอลลีวูด และได้เล่นบทที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังแอ็คชั่น Lucy, หนังอาร์ท Under the Skin และหนังชิงรางวัลอย่าง Marriage Story

นอกจากนี้ โจแฮนสันยังบอกด้วยว่าตอนนี้เธอมีความสุขมากๆ ที่ได้เห็นดารารุ่นเยาว์หลายคนเจริญก้าวหน้าในอาชีพโดยไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่เธอเคยทำมาก่อน เช่น เซนเดย์อา และ ฟลอเรนซ์ พิวจ์

“พวกเขาได้รับอนุญาตให้เป็นสิ่งที่แตกต่าง พวกเขาสามารถเล่นบทที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง”

“ฉันเห็นนักแสดงที่อายุน้อยกว่าฉัน อายุ 20 กว่าๆ มันรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้เป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป มันคือคนช่วงเวลากัน คือเราไม่ได้รับอนุญาตให้ไปกดขี่นักแสดงคนอื่นๆ อีกแล้ว มันช่างน่าดีใจเหลือเกิน ใช่ไหม?”