วาไรตี้รายงานว่า สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน และดิสนีย์ ได้บรรลุข้อตกลงบางอย่างและยุติการฟ้องร้องกันแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้โจแฮนสันได้ยื่นฟ้องดิสนีย์ในข้อหาผิดสัญญาที่ปล่อยฉายหนัง Black Widow บน Disney+ พร้อมกับในโรงภาพยนตร์
แต่สำหรับเงื่อนไขที่ทั้งคู่ตกลงกันไว้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาครับ
“ฉันมีความสุขที่ได้แก้ไขข้อโต้แย้งของเรากับดิสนีย์” สการ์เล็ตต์แถลง “ฉันรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งในงานที่เราได้ทำร่วมกันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และมีความสุขมากๆ กับความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์กับทีมงาน ฉันหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกันต่อไปในภายภาคหน้าค่ะ”
อลัน เบิร์กแมน ประธานของดิสนีย์สตูดิโอคอนเทนต์ก็กล่าวว่าเขารู้สึกยินดีเช่นกันที่ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว
”ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถบรรลุข้อตกลงกับ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ที่เกี่ยวกับ Black Widow ร่วมกันได้ เราซาบซึ้งกับการมีส่วนร่วมของเธอที่มีต่อจักรวาลหนังมาร์เวลและหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกันในโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึง Tower of Terror ของดิสนีย์ด้วยครับ”
ในการฟ้องร้องก่อนหน้านี้ โจแฮนสันกล่าวหาว่าดิสนีย์ผิดสัญญาที่ปล่อยฉาย Black Widow ใน Disney+ พร้อมกับในโรงภาพยนตร์ ซึ่งทำให้เธอสูญเสียเงินโบนัสหลายสิบล้านดอลลาร์ที่มาจากส่วนแบ่งของกำไรจากการฉายในโรงภาพยนตร์
ภายหลังดิสนีย์โต้แย้งด้วยการกล่าวหาว่าโจแฮนสันไม่คำนึงถึงปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมกับเปิดเผยว่าโจแฮนสันได้รับโบนัสกว่า $20 ล้านไปเพิ่มเติมแล้วด้วย
แต่โจแฮนสันมองว่า $20 ล้านนี่อาจน้อยเกินไปกับสิ่งที่เธอควรจะได้ เพราะก่อนหน้านั้นเธอเรียกเงินสูงถึง $80 ล้านเพื่อชดเชยรายได้ที่เสียไปจากการเปลี่ยนรูปแบบการฉายหนัง แต่ดิสนีย์ไม่ยอมรับข้อเสนอนี้จึงมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นตามมาอย่างที่เป็นข่าว
อย่างที่เบิร์กแมนกล่าว การยุติการฟ้องร้องนี้ทำให้หนัง Tower of Terror เดินหน้าต่อได้สักที หลังจากที่เคยมีประกาศว่าโจแฮนสันจะรับบทนำของเรื่อง ซึ่งในรายละเอียดบอกว่าเป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากเครื่องเล่นคลาสสิคในสวนสนุกของดิสนีย์ และได้ จอช คูลีย์ (Inside Out) มารับหน้าที่เขียนบท