*สปอยล์ The Falcon and the Winter Soldier*
คารี สก็อกแลนด์ ผู้กำกับ The Falcon and The Winter Soldier ได้ให้สัมภาษณ์กับ EW ถึงสถานการณ์ที่ แซม วิลสัน ยอมรับการถือโล่ได้ในที่สุด ในซีรีส์ตอนที่ 5 ซึ่งเธอบอกว่า “ฮีโร่” ในยุคอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันมาก ทีมเขียนบทจึงจำเป็นต้องค้นหาความหมายของการเป็นฮีโร่เสียใหม่ โดยเฉพาะการเป็นฮีโร่ผิวดำที่ต้องแบกรับมรดกจากฮีโร่ผิวขาวอันเป็นตำนาน
“เราอยากให้แซมเข้าไปพัวพันกับการสนทนาทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว เกี่ยวกับความหมายสำหรับคนผิวดำที่รับสัญลักษณ์ประวัติศาสตร์อันโด่งดังของคนผิวขาวมาไว้กับตัว เริ่มต้นโดยให้เขารู้ว่ามันมีความสำคัญแค่ไหนในฐานะสัญลักษณ์ และมีความเชื่อมโยงกับยุคสมัยที่ล่วงเลยมาแล้วยังไง แซมเปิดประตูสู่แนวคิดที่ว่า สิ่งที่กำหนดตัวฮีโร่ในทุกวันนี้ไม่ใช่หลักการเดียวกันกับตอนที่สตีฟหยิบโล่ขึ้นมาสู้ครั้งแรก“
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ชมต้องรู้สึกคล้อยตามไปกับการเดินทางของแซมครั้งนี้ เพราะโล่มีความหมายต่อหลายสิ่งหลายอย่างและผู้คนอีกมากมาย
”มันสำคัญที่เราต้องสำรวจทุกๆ ด้านเพื่ออนาคตของฮีโร่ในฐานะสัญลักษณ์ เนื่องจากมันเป็นการแสดงถึงธงชาติอเมริกันและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งที่มาพร้อมกับสิ่งที่แสดงถึงความเท่าเทียมและเสรีภาพ”
”เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวคิดของความปรารถนาเหล่านั้นคือแก่นแท้ของความฝันอเมริกันชน ที่ซึ่งจริงๆ แล้วเปราะบางและจำเป็นต้องการได้รับการปกป้องจากคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม ไม่สำคัญว่าเขาจะมีเจตนาดียังไง นั่นเป็นการเอาเสรีภาพและความเสมอภาคไปแขวนไว้บนเป้าเล็ง”
คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมที่สก็อกแลนด์หมายถึงก็คือ จอห์น วอล์คเกอร์ ที่พลาดพลั้งฆ่าคนต่อหน้าสาธารณะชน และ คาลี มอร์เกนธอ กับภารกิจสร้างโลกไร้พรมแดนให้ได้ไม่ว่าจะต้องทำลายสิ่งใดก็ตาม
อีกทั้งการรับรู้ถึงการมีอยู่ของ อิสยาห์ แบรดลีย์ หรือซูเปอร์โซลเยอร์ผิวดำที่ถูกทดลองอย่างโหดร้าย ก็ทำให้การถือโล่ของแซมยิ่งมีความซับซ้อนขึ้นไปอีก
“ฉันต้องการให้ซีรีส์เข้าไปสำรวจนิยามใหม่ของฮีโร่ ผู้ที่ตามธรรมเนียมแล้วจะถูกมองในฐานะนักรบ ทหาร ผู้ซึ่งเป็นแนวหน้า” สก็อกแลนด์พูดถึงแซมที่ต้องทำหน้าที่นั้น “เพื่อให้เห็นถึงฮีโร่ที่มีคุณธรรมที่แข็งแกร่งแต่ไม่แข็งกร้าว ที่สามารถประณีประนอมได้ รวมถึงการพูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาระดับโลกได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของเรา”