ผู้กำกับ ไรอัน คูกเลอร์ เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเอ็มไพร์ว่า เดิมทีแล้วเขาพัฒนาหนัง Black Panther: Wakanda Forever ให้เป็นเรื่องราวของทีชัลล่าเช่นเดียวกับหนังภาคแรก แต่หลังจากที่ แชดวิก โบสแมน ปิดบังความเจ็บป่วยไว้กับตัวเองกระทั่งเสียชีวิตในเดือนสิงหาคม 2020 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
“การเป็นผู้ใหญ่คือการเผชิญหน้ากับคำถามที่ยากจะตอบ และยังต้องตัดสินใจและเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ” คูกเลอร์กล่าว
หนึ่งในสิ่งที่คูกเลอร์ต้องตัดสินใจคือการเปลี่ยนให้หนังไปเล่าในมุมมองของ ชูริ (เลทิเทีย ไรท์), ราชินีรามอนดา (แองเจลา บาสเซตต์), เอมบาคู (วินสตัน ดุก) และนาเคีย (ลูพิตา ยองโง) ตัวละครรอบข้างทีชัลล่าแทน
“พวกเขาเป็นเหมือนวงดนตรีมากกว่าที่จะเป็นนักแสดงกลุ่มหนึ่ง และแชดก็เป็นเหมือนนักร้องนำ สำหรับผมแล้ว มันเหมือนกับว่า ‘ฉันจะเขียนเพลงที่พวกเขายังสามารถขึ้นไปเล่นบนเวทีได้ยังไงกัน?’ ในแง่ของสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่”
สำหรับนักแสดงเอง พวกเขาก็ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวผู้กำกับอย่างมาก
“ฉันกลัวมาก” ยองโงกล่าว “ไรอันเล่าให้ฉันฟังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นยังไงตอนแชดวิกยังมีชีวิตอยู่ และตอนที่เราเสียเขาไป ความคิดที่ว่าเราจะไปต่อได้ มันยากเกินจะหยั่งถึงมากสำหรับฉัน”
แต่เมื่อคูกเลอร์ได้สร้างบางอย่างที่ให้เกียรติทั้งทีชัลล่าและโบสแมนขึ้นมา ความกลัวของยองโงของก็หายไปในทันตา แต่ยังมาพร้อมกับบางอย่างที่ผู้ชมต้องเตรียมใจไว้ให้ดีเช่นกัน
“สิ่งที่ไรอันบอกกับฉันนั้นช่างเป็นอะไรที่ซื่อตรงและสวยงาม ตอนจบของหนัง ฉันถึงกับน้ำตาไหลออกมาเลย”
หนังมีกำหนดฉายในไทย 9 พฤศจิกายนนี้