หน้าแรก News โรเบิร์ต แพตทินสัน บอกว่าเขาอึ้งตั้งแต่เห็นฉากแรกของหนัง The Batman

โรเบิร์ต แพตทินสัน บอกว่าเขาอึ้งตั้งแต่เห็นฉากแรกของหนัง The Batman

“ผมได้ดูหนังฉบับตัดต่อแบบหยาบๆ แล้ว และช็อตแรกของหนังก็ทำให้ผมอึ้งว่ามันแตกต่างจากหนังแบทแมนเรื่องอื่นๆ อย่างมาก”

โรเบิร์ต แพตทินสัน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ GQ ว่าหนัง The Batman จะแตกต่างจากหนังแบทแมนเรื่องอื่นตรงที่ ครั้งนี้มันจะเน้นไปที่เรื่องราวการสืบสวนสอบสวนมากขึ้น

“มันเป็นสิ่งที่แมตต์พูดจากตอนที่เราเจอกันครั้งแรก เขาบอกว่า ‘ผมอยากทำเรื่องราวนักสืบสไตล์ฟิล์มนัวร์ยุค 70 แบบหนัง The Conversation’ ซึ่งผมคิดว่านั่นคงหมายถึงอารมณ์หรืออะไรสักอย่าง แต่จากช็อตแรก มันเป็นเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนจริงๆ เลยนี่หว่า ผมรู้สึกเหมือนไอ้งั่งเลยตอนนั้น เพราะผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบทแมนเป็นนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่มันใช่จริงๆ นะ เพราะมันมีอะไรมากมายที่เขาทำท่ามกลางตำรวจ ปกติแล้ว เมื่อคุณเห็นแบทแมน เขาก็จะโผล่มาและต่อยตีผู้คน แต่จริงๆ แล้วเขาพูดคุย และมีฉากสะเทือนอารมณ์ระหว่างพวกเขา ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะมีในหนังเรื่องไหน”

แค่นั้นยังไม่พอ บรูซ เวย์น ฉบับนี้ยังถูกตีความให้กลายเป็นตัวประหลาดของเมือง ไม่ใช่หนุ่มเพลย์บอยที่เปี่ยมไปด้วยความหวังว่าเขาจะเปลี่ยนบ้านเมืองได้

“ผมเจอเรื่องน่าสนใจ เขาไม่ใช่เพลย์บอยเลย เขาเป็นตัวประหลาดในฐานะบรูซ และตัวประหลาดในฐานะแบทแมน ผมคอยคิดว่ามันเป็นแบบนั้นมากกว่า เพราะปกติแล้ว ในหนังเรื่องอื่นทุกเรื่อง บรูซจะหายไป ฝึกฝนตัวเอง และกลับมาเมืองก็อตแธมด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง และคิดว่าฉันจะเปลี่ยนเมืองนี้”

“แต่ในหนังเรื่องนี้ มันมีการบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาผิดปกติ แต่สิ่งที่เขากำลังทำ มันไม่เวิร์คเลย สองปีกับการอยู่ในเมือง อาชญากรรมเลวร้ายกว่าตอนที่บรูซเริ่มเป็นแบทแมนซะอีก คนในก็อตแธมก็คิดว่าเขาเป็นแค่อีกอาการหนึ่งที่บ่งบอกว่าทุกอย่างเลวร้ายยังไง”

“มันมีฉากที่เขาซัดทุกคนที่ชานชาลารถไฟ ผมรักที่ในบทมันมีชายคนหนึ่งพูดว่า ‘อ้าา! แย่แล้ว!’ เขากำลังถูกแก๊งโจรปล้น แต่ก็มีสัตว์ประหลาดโผล่มาต่อยทุกคนยับ แล้วหมอนั่นก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบทแมนเข้ามาช่วยเขา เพราะเขามาอย่างกับมนุษย์หมาป่า”

เช่นเดียวกับเหตุผลของการเป็นแบทแมนของบรูซ ที่กลายเป็นสิ่งเสพติดและทำให้สุขภาพของเขาย่ำแย่

“มันมีเรื่องนี้ที่บ่งบอกบาดแผลของเขา หนังเรื่องอื่นๆ ทุกเรื่องมักจะพูดถึงการตายของพ่อแม่ของเขาว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้บรูซกลายเป็นแบทแมน แต่ผมพยายามเปลี่ยนมันให้ไปในทางที่ผมคิดว่าสมจริงกว่า แทนที่จะพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เขาสร้างสิ่งที่สลับซับซ้อนเหล่านี้ขึ้นมาหลายต่อหลายปี ซึ่งได้กลายมาเป็นตัวตนของแบทแมน แต่มันไม่ดีสำหรับเขาเลย มันเหมือนการติดยายังไงยังงั้น”

แพตทินสันบอกว่ามันมีตอนที่อัลเฟรดถามบรูซว่า เขาคิดยังไงที่ทำให้มรดกของครอบครัวต้องมามัวหมอง เพราะการเป็นศาลเตี้ยของเขา

“บรูซบอกว่า ‘นี่เป็นมรดกของครอบครัวผม ถ้าผมไม่ทำ ผมก็ไม่เหลืออะไรแล้ว’ ผมมักจะอ่านแล้วไม่คิดว่ามันหมายถึง ‘ไม่เหลืออะไรแล้ว’ หรือ ‘ไม่มีเป้าหมายแล้ว’ แต่เป็น ‘ผมก็จะตาย’ ผมคิดว่านั่นทำให้มันเศร้าขึ้นมาก แบบว่า มันเป็นหนังเศร้าน่ะครับ มันเกี่ยวกับเขาที่พยายามมองหาความหวัง ในตัวเอง ไม่ใช่แค่เมือง ปกติแล้วบรูซไม่เคยตั้งคำถามถึงศักยภาพของตัวเองเลย ไม่เคยตั้งคำถามศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงของเมืองเลย ผมหมายถึง มันมีแต่เรื่องบ้าๆ ที่ต้องทำ หนทางเดียวที่ผมจะมีชีวิตอยู่ได้คือการแต่งตัวเป็นค้างคาว”

หนัง The Batman มีกำหนดฉายในไทย 3 มีนาคมนี้