ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเดดไลน์ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้ถูกถามถึงเรื่องที่ เควินติน ทารันติโน่ บอกว่านักแสดงมาร์เวลไม่ใช่ ‘ดาราภาพยนตร์’ แต่เป็นตัวละครที่พวกเขาเล่น และการที่หนังมาร์เวลทำให้พื้นที่ของภาพยนตร์แนวอื่นๆ ลดน้อยถอยลง เพราะสตูดิโอและคนดูส่วนใหญ่เอาแต่ตื่นเต้นกับหนังซูเปอร์ฮีโร่
คำตอบของจูเนียร์ดูเหมือนจะเห็นแย้ง เพราะเขามองว่าตัวละครฮีโร่เหล่านั้นต้องการความสามารถของนักแสดงอยู่ดี เพื่อให้ทุกอย่างเฉิดฉายออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น
“ผมคิดว่าความเห็นของพวกเรากับเรื่องนี้บอกอะไรเกี่ยวกับเราได้มากเลยนะ ผมคิดว่าเราอยู่ในช่วงเวลาและสถานที่ที่ผมเข้าไปข้องเกี่ยวโดยไม่ได้ตั้งใจ จุดที่ทรัพสินย์ทางปัญญาชิ้นหนึ่งมีความสำคัญเหนือหลักการและตัวตน แต่มันเป็นดาบสองคม ทรัพสินย์ทางปัญญานั้นดีได้แค่ขีดความสามารถของมนุษย์ที่เป็นตัวแทนของมันเท่านั้น คุณสามารถมีทรัพสินย์ทางปัญญาที่ยอดเยี่ยมได้ไม่ว่ามันจะมาจากนักเขียนหรือผู้กำกับหรือมือเขียนบทที่เป็นสมบัติของชาติ แต่ถ้าคุณไม่มีศิลปินที่เหมาะกับบทๆ นั้น คุณจะไม่มีทางรู้อยู่ดีว่ามันยอดเยี่ยมได้แค่ไหน”
และสำหรับพื้นที่ที่หายไปของหนังหลากหลายแนว จูเนียร์เห็นด้วยว่ามันไม่เหมือนกับเมื่อก่อน แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีพื้นที่ให้กับอะไรอย่างอื่นนอกจากหนังมาร์เวล
“ผมคิดว่ามันเสียเวลาที่จะทำสงครามกับพวกเดียวกัน ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างแตกกระเจิงจนผมคิดว่าคุณมีทางสองทางให้เลือก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อก่อนผมเคยมีรีแอ็คชั่นตอนมีคนพูดว่าสิ่งที่ผมรู้สึกว่ากำลังทำลายความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง แต่ผมบอกไปว่า ‘รู้อะไรไหม อย่าไปคิดถึงมันเลย มันมีพื้นที่พอให้กับทุกอย่างอยู่แล้ว’ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับ Top Gun: Maverick และ Avatar: The Way of Water นั่นคือทั้งหมดที่ผมต้องพูด เราต้องการอะไรใหญ่ๆ เพื่อให้มีที่ว่างให้กับหนังอย่าง Armageddon Time”
“ผมไม่ได้พูดถึงความบันเทิงที่ไหลจากบนลงล่าง ผมแค่จะบอกว่าสิ่งต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผมอยู่ในจุดที่ชีวิตผมย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อน ผมได้ทำงานร่วมกับ คริส โนแลน กับหนังที่เป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนผมไปอย่างมาก ที่ได้เตรียมงานสร้าง ตัดต่อ และเอา Sr. เข้าสู่ตลาด และต่อไปผมกำลังจะทำซีรีส์กับภรรยาผมและผู้กำกับ พัคชานวุค ที่สร้างจากจากนิยายรางวัลพูลิตเซอร์ The Sympathizer มันเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว ที่ผมได้สวมบทบาทที่แตกต่างกันถึง 5 บท ฉะนั้นแล้ว ผมจะบอกว่าก่อนที่เราจะโยนคำวิพากษ์ใส่กันและกัน ลองเจอกับยุคเปลี่ยนผ่านของตัวเองดูก่อน และมาดูกันว่ามันจะไม่เปลี่ยนใจคุณไปสักนิดเลยไหม”
“เปลี่ยนตัวเองก่อนที่คุณจะตัดสินใครต่อใครว่าพวกเขาไม่รู้สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ หรือก่อนที่สิ่งนั้นจะขัดขวางให้คุณไม่ได้ทำสิ่งที่คุณเก่งที่สุด หรือก่อนที่จะมีบางอย่างดีกว่าอีกอย่างนึง คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ (จอน) เฟฟโรบอกว่ามันดีที่สุดแล้ว เราเคยพยายามสร้างคลื่นในทะเลสาบ ตอนนี้เราแค่พยายามไขว่คว้าความสนใจของผู้คนในขณะที่สิ่งต่างๆ เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แต่นี่คือยุคที่เราอยู่ และการยอมรับและรู้สึกขอบคุณที่คุณเป็นส่วนหนึ่งของมันเป็นจุดที่ถูกต้องในการเริ่มต้นแล้ว”
หนังสารคดี Sr. ที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ทำขึ้นมาเพื่อยกย่องบิดาผู้ล่วงลับของเขา และบอกเล่าชีวิตและอาชีพอันหลากหลายของผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นบุกเบิก โรเบิร์ต ดาวนีย์ ซีเนียร์ ฉายแล้วบน Netlfix