เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้กำกับรุ่นเก๋า ริดลีย์ สก็อตต์ เพิ่งมีผลงานใหม่อย่าง The Last Duel ลงโรงฉาย ซึ่งถึงแม้ว่าหนังจะมีนักแสดงแถวหน้าแบบ แมตต์ เดมอน, อดัม ไดรเวอร์, เบน แอฟเฟล็ค และ โจดี โคเมอร์ มารับบทนำ แต่หนังก็ทำรายได้ทั่วโลกเพียง $27 ล้าน จากทุนสร้างสูงถึง $100 ล้าน โดยสก็อตต์บอกว่าเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะคนเจน Y ไม่ค่อยสนใจอะไรนอกจากสิ่งที่ปรากฏอยู่บนจอมือถือ
“ผมคิดว่าประเด็นก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทุกวันนี้คือผู้ชมถูกหล่อเลี้ยงโดยมือถือเวรพวกนี้ คนเจนวายไม่อยากให้อะไรมาสอนพวกเขาเว้นแต่อะไรก็ตามที่พวกเขาได้รับบนมือถือ นี่คือประเด็นสำคัญ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังรับมืออยู่ตอนนี้ก็คือเฟซบุ๊ค นี่คือการแนะแนวแบบผิดที่ผิดทางซึ่งให้ความมั่นใจแบบผิดๆ กับคนรุ่นนี้ ผมคิดว่านะ”
สก็อตต์ยังบอกด้วยว่าเขาเคยกังวลว่าดิสนีย์จะไม่สนับสนุนหนังแบบนี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนปัญหาปิตาธิปไตยที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แต่พวกเขาชอบมัน และเป็นการตัดสินใจที่มั่นคงมาตลอดจนถึงการที่กระบวนการสร้างเสร็จสิ้นลง และไม่ว่าหนังจะออกมาประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาก็พอใจที่มันถูกสร้างออกมาอย่างที่เขาอยากให้เป็น
“เราทุกคนคิดว่ามันเป็นบทหนังที่ยอดเยี่ยม เราเลยลงมือทำมัน คุณชนะตลอดไปไม่ได้หรอก ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจกับหนังเรื่องไหนที่ผมสร้างเลย ไม่มี ผมเรียนรู้ที่จะเป็นนักวิจารณ์ตัวเอง สิ่งเดียวที่คุณควรมีคือข้อคิดเห็นกับสิ่งที่คุณกำลังทำลงไป แล้วเดินจากไป มั่นใจว่าคุณแฮปปี้แล้ว และอย่าหันหลังกลับ นั่นคือผม”