หลังจาก จอร์จ ลูคัส ทำหนัง Star Wars มาแล้วสามภาค เขาก็มีความตั้งใจจะสร้างหนังภาคใหม่ขึ้นมา แต่เป็นเรื่องราวก่อนหน้าที่บอกเล่าว่า อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ กลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ ได้ยังไง
แน่นอนว่าเนื้อเรื่องแบบนี้ทำให้ผู้บริหารของฟ็อกซ์ในตอนนั้นตื่นต้นกันยกใหญ่ แต่พอลูคัสบอกว่าหนังภาคแรกของไตรภาคใหม่นี้จะโฟกัสไปที่อนาคินวัย 10 ขวบ เหล่าผู้บริหารกลับไม่เห็นด้วยและคิดว่าหนังชุดนี้จะต้องจบสิ้นแน่
“คุณจะทำหลายหนังชุดนี้ คุณจะทำลายทุกอย่าง!” ลูคัสอ้างคำพูดของผู้บริหาร ก่อนที่จะบอกว่าตอนนั้นเขาบอกคนอื่นๆ ในลูคัสฟิล์มว่าเขากำลังจะสร้างหนังที่ไม่มีใครอยากดู
อย่างไรก็ดี 1 สัปดาห์หลังหนังภาค The Phantom Menace ออกฉายและทำลายสิถิติบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อปี 1999 ลูคัสยอมรับว่าหนังเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า เพราะดำเนินเรื่องด้วยอนาคินวัยรุ่นและแพดเม่ อมีดาลา ที่อายุ 18 ปี แต่ในขณะเดียวกันลูคัสก็คิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่องราวที่เขาอยากจะเล่าอยู่ดี
“ผมเก็บความตั้งใจเดิมเอาไว้ เราเล่นกับตลาดไม่ได้มากขนาดนั้น เหมือนกันกับแฟนๆ ความคาดหวังของแฟนๆ สูงมากและพวกเขาก็อยากได้หนังที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาและเป็นการมาครั้งที่สอง”
ลูคัสกล่าวต่อ “ผมรู้ว่าถ้าผมสร้างหนังที่อนาคินอายุ 15 แทนที่จะเป็น 9 มันจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า รู้ว่าถ้าผมสร้างหนังที่ราชินีอายุ 18 แทนที่จะ 14 หนังก็จะมีคนดูเยอะกว่า แต่มันไม่ใช่เรื่องราว สิ่งสำคัญคือเขาต้องอายุน้อย ซึ่งเป็นวัยที่การจากไปของแม่เป็นเรื่องสะเทือนใจมากกว่าตอนอายุ 15 เราต้องทำสิ่งที่ถูกต้องสิ ไม่ใช่เพื่อตลาด”