หน้าแรก News เผยโฉม “บทแรก” ของจักรวาลดีซีใหม่ของ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน

เผยโฉม “บทแรก” ของจักรวาลดีซีใหม่ของ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน

“บทแรก” ของจักรวาลดีซีใหม่ของ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน จะมีหนังและซีรีส์ทั้งหมด 10 เรื่อง ได้แก่

Creature Commandos

แอนิเมชั่นซีรีส์ที่สร้างจากคอมมิชื่อเดียวกันที่พาแวมไพร์, มนุษย์หมาป่า และซอมบี้เข้าสู่จักรวาลดีซี ตัวละครที่ยืนยันว่าจะปรากฏตัว ได้แก่ วีเซิล และ ริค แฟล็ก ซึ่ง เจมส์ กันน์ บอกว่าเขากำลังจะแคสต์นักแสดงคนเดิมกลับมาให้เสียงตัวละครเดิมที่พวกเขาเคยรับบท

Waller

วิโอลา เดวิส จะกลับมารับบทเป็น อแมนดา วอลเลอร์ ในซีรีส์เรื่องนี้ที่โฟกัสไปที่ตัวละครของเธอโดยเฉพาะ

“ตัวละครบางตัวที่เรากำลังทำจะะมีการเปลี่ยนแปลง มันคือ มัลติเวิร์ส แต่ก็มีบางตัวที่เราจะใช้ตัวละครเดิม วิโอลายังรับบทเป็นวอลเลอร์และเธอมีทีมพีซเมคเกอร์อยู่กับตัว” เจมส์ กันน์ กล่าว

Superman Legacy

เจมส์ กันน์ บอกว่าในขณะที่ Creature Commandos และ Waller เป็นเหมือน “เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย” ของ DCU หนังซูเปอร์แมนเรื่องนี้จะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ของพวกเขาอย่างเป็นจริงเป็นจัง

“นี่คือจุดเริ่มต้นของ DCU จริงๆ เจมส์กำลังเขียนบทอยู่ในตอนนี้ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาสามารถถูกเกลี้ยกล่อมให้กำกับหนังเองได้เช่นกัน” ปีเตอร์ ซาฟราน กล่าว

“มันจะไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิด มันจะโฟกัสไปที่ซูเปอร์แมนที่กำลังสร้างความสมดุลระหว่างมรดกของชาวคริปโตเนียนกับการถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์ของเขา เขาเป็นตัวแทนของความจริง ยุติธรรม และวิถีอเมริกัน เขาเป็นคนจิตใจดีในโลกที่ความเมตตานั้นล้าสมัยไปแล้ว”

Lanterns

ซีรีส์แนว True Detective คุณภาพสูงที่นำโดย ฮัล จอร์แดน และ จอห์น สจ๊วต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญกับเรื่องราวหลักที่กำลังจะถูกบอกเล่าผ่านภาพยนตร์และซีรีส์อีกหลายๆ เรื่อง

The Authority

หนังที่เป็นมากกว่าฮีโร่ปะทะวายร้ายจากคอมมิคชื่อเดียวกันของ วอร์เรน เอลลิส และ ไบรอัน ฮิทซ์

“DCU ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวของฮีโร่และวายร้าย และไม่ใช่ว่าหนังและซีรีส์ทุกเรื่องจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนดีปะทะคนเลว สิ่งมีชีวิตตัวใหญ่จากฟากฟ้า และเหล่าคนดีชนะ” เจมส์ กันน์ กล่าว

“มันมีหมวกดำ หมวกขาว และหมวกเทา มีคนที่เป็นแอนไทฮีโร่ และมีคนที่มีพิรุธมากๆ อย่าง The Authority ผู้ซึ่งเชื่อว่าเราไม่สามารถแก้ไขโลกได้ด้วยวิธีง่ายๆ และพวกเขาก็จัดการสิ่งต่างๆ ด้วยมือของพวกเขาเอง”

Paradise Lost

ซีรีส์แนว Game of Thrones ที่มีฉากหลังอยู่บนเกาะเธอมิสซิรา บ้านเกิดของชาวแอมะซอน บอกเล่าช่วงเวลาก่อนที่วันเดอร์วูแมนจะถือกำเนิด

“ซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับแผนการทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังสังคมหญิงล้วน”​ เจมส์ กันน์ กล่าว “อะไรคือที่มาของเกาะหญิงล้วนแห่งนี้ อะไรคือความจริงที่สวยงามและความจริงที่น่ารังเกียจที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องราวทั้งหมด”

The Brave and the Bold

หนังพ่อลูกของแบทแมนและโรบินที่สร้างจากคอมมิคของ แกรนท์ มอร์ริสัน

“นี่คือการเปิดตัวเข้าสู่ DCU ของแบทแมน, บรูซ เวย์น และโรบินคนโปรดของเรา เดเมียน เวย์น ลูกฆาตกรตัวแสบ” เจมส์ กันน์ บอกว่าบรูซไม่รู้ว่าเดเมียนมีตัวตนอยู่จริงในช่วง 8-10 ขวบแรก

“มันเป็นเรื่องราวพ่อลูกที่แปลกประหลาดมาก”

Booster Gold

ซีรีส์ของฮีโร่ขี้แพ้จากอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีย้อนเวลากลับมาในยุคปัจจุบันและแสร้งทำตัวว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่

“โดยพื้นฐานแล้วมันคืออาการที่มักคิดว่าตัวเองไม่เก่งในฐานะซูเปอร์ฮีโร่” เจมส์ กันน์​กล่าว

Supergirl: Woman of Tomorrow

หนังไซไฟที่สร้างจากคอมมิคของ ทอม คิง ที่จะแนะนำซูเปอร์เกิร์ลในทิศทางที่แตกต่างจากสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังเป็นอย่างมาก

“ใน DCU ของเรา เราเห็นความแตกต่างระหว่างซูเปอร์แมนที่ถูกส่งมายังโลกและถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่รักเขาตั้งแต่ที่เขายังเป็นทารก เทียบกับซูเปอร์เกิร์ลที่ถูกเลี้ยงดูบนคริปตอนและเฝ้าดูทุกคนรอบตัวเธอตายและถูกฆ่าอย่างน่าสยดสยองในช่วง 14 ปีแรกของชีวิต” เจมส์ กันน์ กล่าว

ในคอมมิคซูเปอร์เกิร์ลได้ออกเดินทางไปในอวกาศเพื่อหาทางแก้แค้นให้กับทุกคน

Swamp Thing

หนังต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตลึกลับ สแวมป์ ติงก์ ที่จะมีโทนมืดมนเป็นพิเศษ

“แม้เรื่องราวเหล่านี้จะเชื่อมโยงกัน แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด” ปีเตอร์ ซาฟราน กล่าว “ผู้สร้างภาพยนตร์แต่ละกลุ่มจะใส่แนวทางของตัวเองเข้าไปในภาพยนตร์ และความสนุกคือการได้เห็นว่าผลงานที่มีโทนแตกต่างกันเหล่านี้จะถูกผสมผสานเข้ากันได้ยังไงในอนาคต”