Women in Film ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจที่จัดทำขึ้นเนื่องโอกาสครบรอบ 5 ปีของเหตุการณ์ที่นิวยอร์คไทม์ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของ ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ ผู้อำนวยการสร้างหนังทรงอิทธิพลคนหนึ่งของฮอลลีวูด ว่าเขาได้ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงหลายราย จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมูฟเมนท์ #MeToo
แบบสำรวจนี้มีขึ้นเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการล่วงละเมิดและการล่วงประเวณีในฮอลลีวูดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลลัพทธ์บอกว่าผู้คนมีความตระหนักรู้ถึงการล่วงละเมิดในที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขาหรือคนที่พวกเขารู้จักยังคงเจอกับการเหยียดหยาม ล่วงละเมิดทางเพศ และล่วงประเวณี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 70% บอกว่าวัฒนธรรมเกี่ยวกับการดูหมิ่นเหยียดหยาม ล่วงละเมิดทางเพศ และล่วงประเวณี ในฮอลลีวูดนั้น “ดีขึ้นบ้างแล้ว” แต่ที่น่าสังเกตคือ 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่ายังคงเจอประสบการณ์แบบนั้นด้วยตัวเองตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ 30.9% บอกว่าการล่วงละเมิดเกิดขึ้นกับคนที่พวกเขารู้จัก
55% ของคนผิวสีที่ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขาเคยถูกล่วงละเมิดหรือล่วงประเวณีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
แบบสำรวจทำขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายนและสิ้นสุดในวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีคนที่อยู่และเคยอยู่ในวงการฮอลลีวูด รวมแล้ว 174 คน โดย 93.6% เป็นผู้หญิง, 3.5% เป็นผู้ชาย, 2.8% เป็นนอนไบนารี, 1.2% เป็นคนข้ามเพศ และมีคนผิวสี 29%
นอกจากนี้ Women in Film ยังบอกอีกว่า แม้ผู้หญิงบางคนจะมีตำแหน่งที่สูงแต่การล่วงละเมิดก็ยังคงดำเนินต่อไป
“ผู้ชายจะบอกว่า ‘อย่ารายงานผมนะ แต่…’ จากนั้นก็พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อไป มันเหมือนกับว่าพวกเขารู้แต่เลือกที่จะเล่นกับเส้นแบ่งนั้น” หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามกล่าว
“แม้แต่สหภาพแรงงานของเรายังเตือนเรา (ตอนที่โทรไปแจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม) ว่าถ้าหากเรารายงาน มันอาจสร้างความเสียหายกับอาชีพของเราได้”
