“ผมจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังก่อน” เควิน ไฟกี ประธาน Marvel Studios เล่า
“ผมรู้ว่าคุณรู้เรื่องนี้ ความจริงแล้วเธอจะไม่ทำหนัง Nomadland จนกว่า Eternals จะเสร็จและออกฉาย แต่เพราะการล็อคดาวน์โควิด เธอตัดสินใจหยิบแล็ปท็อปออกไปทำงาน ทำหนังเล็กๆ เรื่องนั้นให้เสร็จ เธอลงมือทำมัน และใช่ เรื่องตลกของผมก็คือการปล่อยให้เธอทำโครงการที่หลงใหลให้เสร็จ จากเวลาที่ต้องหยุดพักจากหนังมาร์เวลยักษ์ใหญ่ และทันใดนั้นเธอก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ที่อคาเดมี่ได้ ขอให้มีเรื่องดีๆ แบบนี้ต่อไปเถอะ”
“คำตอบจริงๆ ก็คือ การสานต่อสิ่งที่เราเรียนรู้จากผู้สร้างหนังประเภทต่างๆ ทั้งหลายที่เราเคยร่วมงานกันมา เมื่อคุณได้ทำงานกับคนที่มีมุมมองที่มีเอกลักษณ์ โดยไม่คำนึงถึงขนาดของหนังที่พวกเขาเคยทำในอดีต เพิ่มพลังให้พวกเขา รายล้อมพวกเขาด้วยศิลปินเก่งๆ ช่างเทคนิคเก่งๆ นั่นจะสามารถนำมาซึ่งงานภาพที่หนังมาร์เวลต้องการได้ พวกเขาจะนำคุณไปยังที่ๆ คุณไม่เคยไปมาก่อน และผมคิดว่าคุณได้เห็นสิ่งนั้นจากผู้สร้างทั้งหมดที่เราเคยร่วมงานด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สร้างที่เคยทำหนังเล็กๆ และเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ก่อนที่พวกเขาจะข้ามมาทำหนัง MCU”
“โคลอีอาจเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ไม่เพียงเพราะงานที่เธอทำ แต่ทั้งเรื่องราวทั้งหมดของเธอ ปูมหลังของเธอ แต่วิธีที่เธอมองโลกที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการจากนักเล่าเรื่องของคุณและนักทำหนังของคุณ ในฐานะที่เรากำลังจะเข้าใกล้หนัง MCU เรื่องที่ 30 และเราเพิ่งเสร็จสิ้นการทำซีรีส์ Disney+ เรื่องที่ 7 หรือ 8”
“ผมที่ทำงานปีที่ 20 ในมาร์เวล เราเพียงแค่ต้องการทำสิ่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงมัน ทำให้มันเติบโต และทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน และนั่นคือสิ่งที่นักทำหนังแบบโคลอี้เป็น ไม่เพียงแค่มาร์เวล ทั้งสำหรับธุรกิจด้วย และสำหรับธุรกิจหนัง และสำหรับธุรกิจหนังฟอร์มยักษ์”