หน้าแรก News HBO เตรียมทำ The Last of Us ฉบับซีรีส์ โดยผู้สร้าง Chernobyl

HBO เตรียมทำ The Last of Us ฉบับซีรีส์ โดยผู้สร้าง Chernobyl

ล่าสุด THR ได้รายงานว่า เคร็ก มาซิน ผู้สร้างลิมิเต็ดซีรีส์ผู้ชนะรางวัลลูกโลกทองคำและเอมมี่อย่าง Chernobyl เตรียมหยิบเกมยอดฮิต The Last of Us มาทำเป็นฉบับซีรีส์ให้กับช่อง HBO โดยจะร่วมอำนวยการสร้างและเขียนบทกับ นีล ดรัคแมนน์ ผู้กำกับและมือเขียนบทของเกมครับ

The Last of Us จะเป็นซีรีส์เรื่องแรกของบริษัท โซนี่ พิคเจอร์ส เทเลเวชั่น ที่ร่วมสร้างในนามบริษัทผลิตสื่อจากวิดีโอเกมของโซนี่ที่ใช้ชื่อว่า PlayStation Productions และร่วมอำนวยการสร้างโดย อีแวน เวลส์ ประธานสตูดิโอเจ้าของเกมอย่าง Naughty Dog ด้วย

The Last of Us วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 มีฉากหลังเป็นโลกที่ล่มสลายโดยโรคจากเชื้อราที่ทำให้คนคลุ้มคลั่งฆ่ากันเอง เล่าเรื่องราวผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง โจเอล หนุ่มวัยกลางคนที่พยายามเอาชีวิตรอดบนโลกที่เปลี่ยนไป กับ เอลลี่ เด็กสาวที่เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโรคระบาด ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่างโจเอลต้องพาเอลลี่ข้ามเขตแดนอันตรายเพื่อพาเธอไปส่งถึงที่หมาย ซึ่งกลายเป็นการเดินทางที่จำเป็นต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อความอยู่รอด

รายงานบอกว่าซีรีส์จะเล่าจากเหตุการณ์ในเกมต้นฉบับที่เขียนโดย นีล ดรัคแมนน์ และเป็นไปได้ว่าจะเสริมเนื้อหาจากเกมภาคต่อที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ด้วย

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นีล ดรัคแมนน์ เป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งที่สุดในวงการวิดีโอเกม และ The Last of Us เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเขา” เคร็ก มาซินกล่าว “การได้รับโอกาสดัดแปลงจากผลงานศิลปะชื้นเยี่ยมนี้เป็นความฝันของผมมาตลอดหลายปี ผมเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทำมันด้วยความช่วยเหลือจากนีล”

“จากครั้งแรกที่ผมนั่งคุยกับเคร็ก ผมทึ่งมากสำหรับการเล่าเรื่องของเขาและความรักความเข้าใจของเขาที่มีต่อ The Last of Us” นีล ดรัคแมนน์กล่าว “ใน Chernobyl เคร็กและเอชบีโอได้สร้างผลงานชิ้นเอกที่ตึงเครียดและสะเทือนอารมณ์ ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีหุ้นส่วนคนไหนที่ดีไปกว่าพวกเขาที่จะมอบชีวิตแก่เรื่องราวของ The Last of Us ให้กลายมาเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ได้”

The Last of Us เป็นเกมที่ได้รับรางวัลมากมายรวมถึง “เกมแห่งปี” ในปี 2013 สามารถจำหน่ายได้กว่า 17 ล้านชุดจากเกมต้นฉบับบนเครื่อง PlayStation 3 และฉบับรีมาสเตอร์บนเครื่อง PlayStation 4 ซึ่งเกมถูกตั้งต้นจากไอเดียของ นีล ดรัคแมนน์ ตอนที่ยังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน