ความจริงแล้ว เจ.เจ. เอบรามส์ ไม่ได้มีหน้าที่กำกับหนังปิดไตรภาคอย่าง Star Wars: The Rise of Skywalker ตั้งแต่แรก แต่เพราะ โคลิน เทรเวอร์โรว์ ถอนตัวออกไปเขาจึงต้องกลับมาจบสิ่งที่ตัวเองเริ่มไว้ แต่ถึงอย่างนั้นการกลับมาครั้งนี้มอบความรู้สึกที่แตกต่างออกไปให้กับเขา เพราะเอบรามส์บอกว่าสิ่งที่เขาทำลงไปอาจเป็นการทำให้หนังเบนออกจากเส้นทางเดิมๆ ของ Star Wars ซึ่งต่างจากที่เขาเคยทำไว้ใน The Force Awakens
“ในหนังภาคนี้ อย่างน้อยๆ ผมได้ปล่อยให้ตัวเองทำอะไรๆ ที่อิสระมากขึ้น ในภาค 7 หัวของผมยึดมั่นกับวิธีการที่เหมาะสมสำหรับ Star Wars มันเป็นเรื่องของการหาภาษาภาพ เช่นการถ่ายทำในสถานที่จริง ใช้อุปกรณ์จริงเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อเราได้ทำต่อในภาค 9 ผมพบว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ผมไม่แน่ใจว่าจะกล้าทำในภาค 7”
ฟังดูเหมือนเป็นผลกระทบจากสิ่งที่ผู้กำกับ ไรอัน จอห์นสัน ทำกับ The Last Jedi ที่นำไปสู่อากาศสดใหม่ในจักรวาลนี้ “ไรอันช่วยเตือนผมว่านั่นเป็นสาเหตุที่เราดูหนังเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ที่ทำอะไรที่คุณเคยเห็นมาก่อน ผมจะไม่บอกว่าผมรู้สึกถูกบังคับหรือจำกัดตอนทำภาค 7 แต่ผมพบว่าตัวเองต้องการที่จะทำบางอย่างที่ให้ความรู้สึกคงเส้นคงวากับไตรภาคดั้งเดิมมากกว่า แต่ในภาค 9 ผมพบว่าตัวเองรู้สึกว่าผมจะออกไปไกลจากเดิมอีกนิด”
หนังมีกำหนดฉาย 19 ธันวาคมนี้