ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ได้พูดถึงหนัง Avatar: The Way of Water ว่าการที่มันห่างจากภาคแรกนานถึง 15 ปี ทำให้ตัวละครต่างๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่และกลายเป็นพ่อคนแม่คน ซึ่งเป็นเรื่องที่เขามองว่ามันขาดหายไปในตัวละครของมาร์เวลและดีซี
“มันไม่สำคัญว่าตัวละครจะแก่แค่ไหน แต่พวกเขาทุกคนทำตัวเหมือนอยู่ในมหาวิทยาลัย พวกเขาดูเหมือนมีความสัมพันธ์กัน แต่แท้จริงแล้วพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเลย พวกเขาไม่เคยไปออกไปสังสรรค์ด้วยกันเพราะลูกๆ ของพวกเขา สิ่งต่างๆ ที่สอนเรา และมอบพลัง ความรัก และจุดมุ่งหมายให้เรา ตัวละครเหล่านั้นไม่เคยได้สัมผัสมัน และผมคิดว่านั่นไม่ใช่วิธีการสร้างภาพยนตร์”
“ตอนนี้โซอี้และแซมเล่นเป็นพ่อแม่ในอีก 15 ต่อมา” คาเมรอนกล่าวเปรียบเทียบกับตัวละครหลักในหนัง Avatar “ในหนังภาคแรก ตัวละครของแซมกระโดดออกจากหลังสิ่งมีชีวิตบินได้และได้เปลี่ยนเส้นทางของประวัติศาสตร์ซึ่งอันเป็นผลมาจากความเชื่อที่บ้าคลั่งและเกือบจะทำเขาตาย ส่วนตัวละครของโซอี้ก็กระโจนออกไปและคิดว่าจะใบไม้ใบใหญ่รอรับเธออยู่ แต่เมื่อคุณเป็นพ่อแม่ คุณจะไม่คิดอย่างนั้น”
“สำหรับผมในฐานะพ่อที่มีลูกห้าคน ผมจะบอกว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อตัวละครเหล่านั้นเติบโตเต็มที่และตระหนักได้ว่าพวกเขามีความรับผิดชอบนอกเหนือจากการอยู่รอดของพวกเขาเอง'”
Avatar: The Way of Water มีกำหนดฉายในไทย 15 ธันวาคมนี้