หน้าแรก News “ฉันยังไม่เชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้น” โคลอี้ เจา เล่าเบื้องหลังฉากท้ายเครดิตทั้ง 2 ตัวของ Eternals

“ฉันยังไม่เชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้น” โคลอี้ เจา เล่าเบื้องหลังฉากท้ายเครดิตทั้ง 2 ตัวของ Eternals

“ฉันยังไม่เชื่ออยู่เลยว่ามันเกิดขึ้น”

โคลอี้ เจา ผู้กำกับ Eternals พูดถึงฉากท้ายเครดิตตัวแรกที่ได้แนะนำตัวละครใหม่ อีรอส หรือสตาร์ฟ็อกซ์ น้องชายของธานอสที่รับบทโดย แฮร์รี่ สไตล์ส ผู้ซึ่งปรากฏตัวในยานของเหล่าอีเทอร์นอล ก่อนที่บอกว่าเพื่อนของพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายและเขารู้วิธีช่วยเหลือ

เจาบอกว่าตอนที่เธอเสนอไอเดียนี้ให้ เควิน ไฟกี ฟัง เธอรู้เลยว่ายังไงก็ต้องให้สไตล์สมารับบทนี้

“ไอเดียของอีรอสและแฮร์รี่ผุดขึ้นมาในหัวของฉันในเวลาเดียวกัน มันไม่ได้เหมือนกับฉันสร้างตัวละครนี้แล้วก็นึกถึงนักแสดงอีกที”

“การได้เห็นเส้นทางสายอาชีพของเขา ที่ที่เขาไป สิ่งที่เขากำลังนำเสนอ เขาเป็นคนน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ และฉันคิดว่านั่นคืออีรอส เขาเป็นตัวละครนั้น เขาเป็นน้องชายของธานอส ฉันคิดไอเดียทั้งหมดขึ้นในหัว เรื่องราวปูมหลังของพวกเขา ฉันตื่นเต้นมากๆ ตอนที่เควินบอกว่า ’มาทำกันเถอะ’”

ความโชคดีของเจายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเธอแทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการชวนสไตล์มาเซ็นสัญญากับมาร์เวลแม้แต่น้อย “ฉันคิดว่าทุกคนชอบที่จะได้ทำงานกับมาร์เวล เขาอยู่ในเกมอยู่แล้ว”

เจาบอกว่าฉากท้ายเครดิตตัวแรกถ่ายทำเสร็จภายในวันเดียว โดยการซ่อนสไตล์สจากผู้คนในกองถ่ายไว้ในผ้าคลุมปกปิดใบหน้า

”การได้เห็นเข้าเดินเข้ามาในฉากและทำให้อีรอสมีชีวิตขึ้นมา มันสุดยอดมาก”

อีรอสไม่ได้เป็นตัวละครใหม่เพียงตัวเดียวที่เจาแนะนำผ่านฉากท้ายเครดิตของหนัง เพราะยังมี แบล็กไนท์ ฉายาที่จะตกเป็นของ เดน วิทแมน ตัวละครที่ผู้อำนวยการสร้าง เนท มัวร์ ติดต่อไปหา คิท แฮริงตัน ด้วยตัวองเพื่อชวนเขามารับบท รวมถึงการบอกล่วงหน้าด้วยว่าเขาจะไม่ได้มีบทบาทใหญ่โตเกินกว่าการเป็นตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยชาติกับเซอร์ซี

“ฉันเป็นแฟนตัวยงของตัวละครนี้”​ เจาพูดถึงแบล็กไนท์ “ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นตัวละครมนุษย์ที่น่าสนใจมากด้วยประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน คุณสามารถสัมผัสได้ว่าเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับอีเทอร์นอล แต่เขามีบางอย่างที่พิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องที่สนุกมาก”

แต่ทว่าเรื่องที่สนุกๆ นั้นกลับไม่ได้ถูกเล่าออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำเพราะนอกจากถูกตัดบทจากเซเลสเชียลที่พาตัวเซอร์ซีไป เขายังถูกขัดจังหวะจากการสัมผัสดาบโบราณจากบุคคลปริศนาที่โผล่มาแค่เสียง ซึ่งเป็นเสียงของ มาเฮอร์ชาลา อาลี ผู้ที่จะมารับบทเป็น Blade ในหนังฉบับยกเครื่องใหม่ของมาร์เวล

”ผมรู้ประโยคนั้น เพราะมันถูกพูดออกมาและอยู่ในบทที่ผมได้รับ” แฮริงตันกล่าว “แต่ผมเพิ่งรู้ว่านั่นเป็นเสียงของมาเฮอร์ชาลาเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน โคลอี้ส่งข้อความมาบอกผมว่ามันเป็นยังไง มันทำให้ผมตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงคนโปรดของผมในตอนนี้เลย”

แต่ถึงกระนั้น แฮริงตันก็ไม่ได้อยากยืนยันอะไรเกี่ยวกับอนาคตของตัวละครทั้งสอง แม้ในคอมมิคทั้งคู่จะเคยมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาก่อน

”ผมมีลางสังหรณ์ว่าจะมีการครอสโอเวอร์กัน จากการที่ผมได้พูดคุยในช่วงแรกๆ นะ”

แต่แฮริงตันจะร่วมแสดงในหนัง Blade หรืออาลีจะเป็นฝ่ายร่วมแสดงในหนัง Black Knight หรือไม่นั้น ยังเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้

“ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ไม่รู้เลย ไม่มีอะไรเขียนไว้ ไม่มีใครบอกผม ผมไม่ได้มีเบาะแสอะไร บอกตามตรงเลย ตลกดีใช่ไหมครับ เวลาเราพูดอะไรแบบนี้ ผู้คนก็จะแบบ ‘นั่นไง คุณรู้แน่เลย‘ แต่ผมไม่รู้ ผมก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ใครจะไปรู้ล่ะ”

และถึงแม้เจาอาจจะรู้ว่าอนาคตของจักรวาลหนังมาร์เวลจะเป็นยังไงหลังจากนี้ แต่เธอก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บอกใครทั้งนั้น

“ทั้งหมดที่ฉันพูดได้คือมันมีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของ MCU” เธอยิ้ม “ฉันจะกลับไปทำงานกับมาร์เวลอีกถ้าพวกเขาต้องการใช้ในสักวันหนึ่งค่ะ”