แม้ว่า Dune จะยังไม่ออกฉายและยังไม่เห็นการตอบรับด้านผู้ชมและรายได้ แต่ผู้กำกับ เดอนีส์ วิลเนิฟ คิดว่าเขาน่าจะได้ทำหนังภาคที่ 2 ต่อไป เนื่องจากเขาผ่านส่วนที่ยากที่สุดอย่างการที่ค่ายยอมนำนิยายไซไฟชั้นยอดดัดแปลงมาเป็นหนัง และการที่เขาเข็นมันจนขึ้นจอได้ในที่สุด
“สิ่งแรกคือการพิสูจนว่าภาพยนตร์ยอดนิยมที่สวยงามมีอยู่จริง และผมคิดว่าผมพิสูจน์เรื่องนั้นแล้ว ทุกคนที่วอร์เนอร์บราเธอร์สและเลเจนดารี พวกเขาเป็นเบื้องหลังหนังเรื่องนี้ 100% พวกเขารู้สึกว่ามันจะต้องทำรายได้ที่ย่ำแย่มากๆ ถึงจะทำให้ไม่มี Dune: Part Two ออกมา เพราะพวกเขารักมันมากๆ พวกเขาภูมิใจกับมัน ดังนั้นพวกเขาอยากเห็นหนังได้ไปต่อ แต่พวกเขายังทำได้แค่ครึ่งเดียว รู้ไหม ตอนนี้ผมโลกสวยเอามากๆ”
วิลเนิฟยังบอกด้วยว่าตอนนี้เขาเริ่มลงมือเขียนบทหนังภาคต่อไปแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้สร้างสรรค์เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยมือของเขาเอง “ผมรู้สึกเหมือนได้อายุแปดขวบอีกครั้ง นั่นเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับผม”
Dune จะฉายในอเมริกา 22 ตุลาคมนี้ทั้งในโรงภาพยนตร์และ HBO Max ส่วนในไทยมีกำหนดฉาย 13 ตุลาคมนี้