“สิ่งที่ผมสงสัยจริงๆ ก็คือ ทำไม ซือมู่ หลิว ถึงไม่พอใจกับคำพูดของ (เควนติน) ทารันติโน? ผมงงจริงๆ ซือมู่หลิวคิดว่าเขาเป็นดาราภาพยนตร์เหรอ? เพราะนั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา“
ส่วนหนึ่งจากบทความ “ซือมู่หลิวคิดว่าเขาเป็นดาราภาพยนตร์?” จาก Cinema Sangha ที่ตั้งคำถามถึงสิ่งที่ เควนติน ทารันติโน พูดถึงหนังมาร์เวล และ ซือมู่หลิว ที่ออกมาโต้แย้งความเห็นของทารันติโน
“เราต้องย้อนกลับไปและถามว่าดาราภาพยนตร์คืออะไร? หากคุณแสดงในภาพยนตร์ แสดงว่าในทางเทคนิคแล้วคุณเป็นดาราภาพยนตร์ แม่คุณสามารถพูดได้เต็มปากว่าคุณเป็น แต่คุณเป็นดาราภาพยนตร์จริงๆ หรือ? นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง“
“อะไรทำให้คุณเป็นดาราภาพยนตร์? หนึ่งในคำจำกัดความเก่าแก่นั้นเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแบกหนัง ผู้คนไปที่โรงภาพยนตร์ในวันหยุดสุดสัปดาห์และพูดว่า ‘ขอซื้อตั๋วหนังของ ‘ดาราภาพยนตร์‘ หนึ่งใบหน่อยครับ‘ ชื่อคุณที่อยู่เหนือชื่อหนังบนใบปิดช่วยให้หนังทำเงินไหม? คนเขาเข้าไปดูคุณไหม?”
“ในศตวรรษ์ที่ 21 นี้ มันก็อาจจะไม่ หมดยุคของดาราภาพยนตร์แบบดั้งเดิมแล้ว คุณมี ทอม ครูซ และอาจจะรวมถึง วิล สมิธ ผมนึกไม่ออกว่าจะมีนักแสดงคนอื่นๆ ที่เป็นแบบนั้นในยุคสมัยนี้ มีคนไปที่โรงภาพยนตร์ตอนที่หนัง Shang-Chi ฉาย แล้วพูดว่า ‘ขอซื้อตั๋วหนังของ ซือมู่หลิว หนึ่งใบหน่อยครับ‘ ไหม? ผมล่ะสงสัยจริงๆ“
“อีกอย่าง หลิวเขาโยงความหลากหลายเข้ามาในการโต้ตอบของเขา ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมคิดว่าเหตุผลคือเขาจะพูดว่าตอนนี้ดาราภาพยนตร์กำลังลดน้อยลงเพราะมีดาราภาพยนตร์ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน การลดน้อยถอยลงของดาราภาพยนตร์เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว สามารถย้อนกลับไปสักสิบปีหรือมากกว่านั้นและหาคนที่พูดแบบนี้ได้เลย มันไม่ใช่เงื่อนไขใหม่อะไร“
“แต่ยิ่งไปกว่านั้น การวิจารณ์ เควนติน ทารันติโน ที่เอาผู้หญิงผิวดำมารับบทนำในหนังก่อนหน้าที่มาร์เวลจะทำ25 ปี (และพวกเขาทำเพียงเพราะนักแสดงชายผิวดำของพวกเขาเสียชีวิต) มันรู้สึกแปลกๆ อยู่นะ ผมขอยืนยันว่าภาพยนตร์ 5 จาก 9 เรื่องของทารันติโนไม่ได้แสดงนำโดยชายผิวขาว และอีกสองเรื่องเป็นมีเหล่านักแสดงที่ประกอบด้วยคนผิวดำ นั่นเป็นค่าเฉลี่ยที่ดีกว่ามาร์เวลด้วยซ้ำ“
“ผมไม่คิดว่าซือมู่หลิวเชื่อว่าเขาเป็นดาราภาพยนตร์ ผมไม่คิดว่าเขาจะเชื่อว่าเขาสามารถแบกหนังโดยใช้พลังดาราของเขาได้ ผมคิดว่าซือมู่หลิวต้องเข้าใจว่าเขาชนะไปแล้ว เขาไม่ต้องการคำอนุมัติจากใครอีกแล้ว เขาจะได้แสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีอิทธิพลเหนือวัฒนธรรมอีก 6 ถึง 8 เรื่อง ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว“
อ่านบทความฉบับเต็ม https://www.patreon.com/posts/does-simu-liu-75004119