หน้าแรก News “มันคือจดหมายรักของภาพยนตร์” ผู้กำกับ แองกัส แมคเลน เล่าถึงไอเดียของหนัง Lightyear

“มันคือจดหมายรักของภาพยนตร์” ผู้กำกับ แองกัส แมคเลน เล่าถึงไอเดียของหนัง Lightyear

“แอนดี้ดูหนังเรื่องอะไรตอนที่เราทำ Toy Story ทำไมเราไม่สร้างหนังเรื่องนั้นขึ้นมาล่ะ“

ผู้กำกับ แองกัส แมคเลน (Finding Dory) เล่าถึงไอเดียของ Lightyear หนังต้นกำเนิดของ บัซไลท์เยียร์ ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับของเล่น ซึ่งเป็นหนังที่คุณอาจจินตนาการได้ว่าเป็นหนังที่มีอยู่จริงๆ ในจักรวาล Toy Story ที่แอนดี้และเด็กๆ อีกหลายล้านคนดู ก่อนที่จะปลุกให้แอ็คชั่นฟิกเกอร์บัซไลท์เยียร์กลายเป็นที่คลั่งไคล้ในปี 1995

“Lightyear เป็นเรื่องราวที่ส่วนตัวมากๆ มันจะเป็นหนังที่สนุกในแบบที่ผมทำให้กับหนังหลายๆ เรื่องเพราะผมชอบหนัง ผมชอบดูหนัง ผมอยากให้มันสนุกและเพลิดเพลิน และมันจะเป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจคุณและเข้าไปดูมันอีกครั้ง เหมือนหนังที่เราดูตอนเด็กๆ Lightyear เป็นจดหมายรักของกระบวนการสร้างและจดหมายรักของภาพยนตร์”

ด้วยนิสัยใจคอของบัซในหนัง Toy Story ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แมคเลนอยากเข้าไปสำรวจตัวตนของเขาจริงๆ ว่าทำไมบัซถึงเป็นเช่นนั้น

”มีแก่นเกี่ยวกับบัซที่เราสังเกตเห็นตอนที่ไล่ดูหนัง Toy Story ทุกเรื่องอย่างละเอียด บัซคนนั้นไม่ยอมรับความเป็นจริง ในหนังภาคแรก เขาเชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์อวกาศตอนที่วูดดี้บอกว่าเขาเป็นแค่ของเล่น หนังภาคสอง พวกเขาต้องเจอกับบัซไลท์เยียร์อีกตัวและเขาต้องโน้มน้าวตัวเองอีกคนว่าเขาเป็นแค่ของเล่น และมีบัซสเปนในภาคสาม และเสียงในหัวในภาคสี่ นั่นเป็นสิ่งที่เรารู้ว่าเราจำเป็นต้องมีบทสรุปให้กับมัน”

“บัซเป็นคนที่จริงจังกับงานมากๆ และทำตามกฏอย่างเคร่งครัด เขามีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสูง มันมีฮีโร่สายทหารตัวอื่นๆ ที่เราเคยรู้จักและเล่นด้วย แต่เขาเป็นส่วนผสมของตัวละครไซไฟที่จำเจมาก เราจะทำยังไงให้มันเป็นมากกว่าหมัดเด็ดคำนั้น นั่นเป็นหน้าที่ของหนังเรื่องนี้”

และหนังเรื่องนี้จะไม่สมบูรณ์แบบเลย หากขาด คริส อีแวนส์ ผู้ที่เป็นตัวเลือกแรกของแมคเลนในการมาให้เสียงพากย์เป็นบัซ

”เขาเป็นตัวเลือกแรกเลย ทันทีที่เรารู้ว่าเราจะทำมัน ชื่อเขาก็โผล่เข้ามาในหัว เขามาที่พิกซาร์ เราไปเที่ยวกันวันหนึ่งและเสนอหนังให้เขาฟัง เขาตื่นเต้นมากๆ เขาเข้าใจสิ่งที่เราจะทำ เขาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างตั้งแต่การฝีกใช้เสียงและรำลึกถึงสิ่งที่มันควรจะเป็นและสิ่งที่ตัวละครควรจะเป็นและจริงจังกับมัน ตามหาความตลกของตัวละคร ไม่ใช่การล้อเลียน แต่เพราะแรงดึงดูดและพลังของดารา เพราะเขาเป็นนักแสดง เขาจึงรู้วิธีสวมบทเป็นฮีโร่คลาสสิกสุดเนี๊ยบ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้วิธีที่จะพลิกแพลงและใส่ความตลกด้วยวิธีที่ฉลาดมากๆ ไม่ใช่การทำลายตัวละคร”

แมคเลนยังบอกอีกว่าอีแวนส์มีส่วนช่วยในการออกแบบฉากแอ็คชั่นของหนังด้วย

”มันเป็นประสบการที่ยอดเยี่ยมมากครับ เขาเป็นคนสนุก และเป็นแฟนอนิเมชั่น เขาเคยอยากเป็นนักสร้างอนิเมชั่นด้วย เขาเลยมีความสนใจในการบวนการสร้างมากๆ คุณไม่มีทางเจอคนแบบเขาได้ตลอด เขาช่วยเราเขียนสตอรี่บอร์ดได้มากจริงๆ เขาจะบอกว่า ‘ผมเข้าใจละ’ แล้วก็เล่นมันออกมา โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่น เขาเก่งมากๆ ผมไม่รู้จะชมเขายังไงดีเลย ผมดีใจอย่างยิ่งที่เขาตอบตกลง”

หนังมีกำหนดฉายในไทย 16 มิถุนายนปีหน้า