เดอนีส์ วิลเนิฟ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับที่ขาขึ้นมากๆ เพราะหลังจากทำหนังเล็กๆ อย่าง Prisoners และ Sicario จนดังเปรี้ยงปร้าง เขาก็ได้มีโอกาสทำหนังฟอร์มยักษ์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Arrival, Blade Runner 2049 และเรื่องล่าสุด Dune
แต่ดูเหมือนว่าเขาอยากจะพักบ้างแล้วครับ เพราะล่าสุดระหว่างรายการ Team Deakins วิลเนิฟได้เปิดเผยว่าเขาต้องการกลับไปทำหนังทุนกลางๆ บ้างแล้ว หลังจากทำหนังใหญ่มาหลายเรื่องติดกัน
“มันคงจะดีสำหรับผมถ้าได้ทำหนังเล็กๆ บ้าง มันคงดีถ้าได้ย้อนกลับไปทำหนังแบบ Sicario ที่ผมไม่ต้องจินตนาการถึงการออกแบบรถยนต์หรือกระเป๋าสตางค์หรือปืนเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน ผมพร้อมอ้าแขนรับหนังแบบนั้น มันคงจะดีถ้าได้ทำ”
นอกจากนี้วิลเนิฟยังพูดถึง Blade Runner 2049 ไว้ด้วย ซึ่งเป็นหนังที่มีทั้งคนยกย่องและไม่ชอบ รวมถึงมีคะแนนรีวิวที่สวนทางกับรายได้ทั่วโลก
“มันเป็นหนังที่ผมยังไม่สามารถกลับไปดูอีกหนได้ มันต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและสร้างสันติกับหนังของตัวเอง สำหรับผมเมื่อผมสร้างหนัง มันมีทั้งสุข เจ็บปวด และโกรธตลอดการสร้าง และเมื่อมันเสร็จแล้ว ผมต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถึงจะกลับไปดูอีกรอบและเข้าใจว่ามันเป็นยังไงได้”
Dune ว่าด้วยเล่าเรื่องราวของ พอล อาเทรเดส (ทีโมธี ชาลาเม็ต) ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมกับชะตากรรมอันยิ่งใหญ่เกินกว่าความเข้าใจของตัวเอง เขาต้องเดินทางไปยังดวงดาวอันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความปลอดภัยของราชวงศ์ของเขาที่ปกครองดาวนี้อยู่ ท่ามกลางความขัดแย้งจากราชวงศ์ที่เป็นปรปักษ์ที่หวังยึดครองทรัพยากรล้ำค่าอย่าง “สไปซ์” พืชที่สามารถปลดล็อกศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ
แสดงนำโดย ทีโมธี ชาลาเม็ต, รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน, เซนเดย์อา, เจสัน โมมัว, ออสการ์ ไอแซ็ค, เดฟ บาทิสต้า, สเตลเลน สการ์สการ์ด, จอช โบรลิน และ ฮาเวียร์ บาร์เด็ม ซึ่งวิลล์เนิฟรับหน้าที่กำกับและร่วมเขียนบทกับ อีริค รอธ (The Curious Case of Benjamin Button) และ จอน สเปทส์ (Prometheus) มีกำหนดฉายในสหรัฐ 18 ธันวาคม 2020