แม้ว่ารายได้ทั่วโลกของหนัง Terminator: Dark Fate จะเป็นที่น่าพอใจ แต่คงปฏิเสธได้ยากว่ามันทำรายได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับหนังฅนเหล็กเรื่องอื่น ๆ ซึ่งล่าสุด ผู้กำกับ ทิม มิลเลอร์ ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ พร้อมกับพูดถึงความยากในการทำงานร่วมกับผู้สร้างแฟรนไชส์นี้อย่าง เจมส์ คาเมรอน ที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการสร้างของหนังภาคล่าสุดนี้
“ผมมั่นใจว่าผมสามารถเขียนหนังสือได้เป็นเล่มเลยว่าทำไมหนังถึงไม่เวิร์ค ผมยังไม่แน่ใจนักและผมกำลังประมวลผลอยู่ แต่ผมภูมิใจกับหนังเรื่องนี้มากๆ”
มิลเลอร์ได้เข้าไปสำรวจปฏิกิริยาของคนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และพบว่าปฏิกิริยาเหล่านั้นส่วนใหญ่มักไม่เกี่ยวข้องกับหนังของเขาจริงๆ
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาเกลียดที่สุดในหนัง คือสิ่งที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ผมไม่สามารถควบคุมให้คุณไม่ชอบ Genysis หรือว่ารู้สึกถูกหักหลังจาก Terminator 4 ได้ ผมช่วยไม่ได้จริงๆ”
จากนั้นมิลเลอร์ก็พูดถึงการต่อสู้ระหว่างเขาและคาเมรอนด้วยว่า “เลือดจากการต่อสู้ทางความคิดสร้างสรรค์ยังติดผนังอยู่เลย แม้ว่าจิม และเดวิด เอลลิสัน จะเป็นผู้อำนวยการสร้าง และในทางเทคนิคพวกเขาเป็นคนตัดต่อหนังฉบับสุดท้ายและมีอำนาจที่สุด แต่ชื่อของผมยังเป็นผู้กำกับของหนังอยู่ แม้ว่าผมจะแพ้ในศึกต่อสู้ก็ตามที ผมยังรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่จะต้องต่อสู้เพราะมันคือสิ่งที่ผู้กำกับควรจะทำ สู้เพื่อหนังเรื่องนี้”
มิลเลอร์เล่าต่อว่าคาเมรอนมีมุมต่อโครงสร้างการเล่าเรื่องพื้นฐานของ Terminator: Dark Fate แตกต่างกับเขา ขณะที่มิลเลอร์ต้องการที่จะเปิดหนังด้วยความพ่ายแพ้ของมนุษย์ในการทำสงครามกับเครื่องจักรกล โดยเฉพาะกับ Legion (เวอร์ชั่นใหม่ของ Skynet) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้มีการย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง แต่คาเมรอนกลับอยากเปิดหนังด้วยชัยชนะของมนุษย์
“Legion ทรงพลังอำนาจมาก วิธีเดียวที่จะเอาชนะมันก็คือการย้อนเวลาและบีบคอมันในเตียงเด็ก แต่จิมบอกว่า ‘มนุษย์แพ้มันเร้าใจตรงไหน?’ ผมเลยบอกว่า ‘แล้วเรื่องที่มนุษย์ชนะแล้วก็อยากชนะต่อไปมันเร้าใจตรงไหน?'”
“ผมชอบการรบจนตัวตาย แต่มันไม่ใช่แนวของเขา”