ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Esquire คิลเลียน เมอร์ฟี พูดถึงเหตุการณ์ที่ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน เลือกเขาให้มารับบทนำในหนัง Oppenheimer ที่บอกเล่าชีวประวัติของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (เมอร์ฟี) นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระเบิดปรมาณูที่ซึ่งหยุดสงครามโลกครั้งที่สอง ว่ามันยังคงทำให้เขาช็อคอยู่ แม้จะผ่านเหตุการณ์นั้นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว
“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาให้ผมรับบทนำ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังช็อคอยู่ แต่ผมตื่นเต้นน่ะ มันเป็นบทสำคัญและต้องทำงานหนัก แต่ในความเห็นของผม คุณกำลังทำงานร่วมกับผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ฉะนั้นคุณอยู่กับคนที่ไว้ใจได้แล้ว”
และแน่นอนว่าโนแลนจะเล่าเรื่องของหนังในแบบที่เขาถนัด นั่นคือสิ่งที่ผู้ชมคาดไม่ถึง
“ความแตกต่างของหนังเรื่องนี้คือเรื่องราวมันอยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คริสกำลังจะเล่ามันในแบบที่ต่างออกไป ในแบบที่คุณคาดหวังได้จากคริส นี่คือทั้งหมดที่ผมบอกได้”
เมื่อเมอร์ฟีถูกถามว่าหนังจะเน้นเล่าช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของออพเพนไฮเมอร์ หรือเกี่ยวกับโครงการแมนฮัตตัน เขาก็ตอบได้เพียงแค่ว่า “ผมบอกไม่ได้ครับ พวกเขาจะฆ่าผม พวกเขาเข้มงวดกันมากจริงๆ”
เนื่องจากเมอร์ฟีต้องรับบทคนที่ฉลาดมากๆ เขาจึงจำเป็นต้องค้นคว้าเรื่องราวต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุด
“มันมีข้อมูลมากมายและผมต้องอ่านมันให้หมด ผมไม่เคยเข้าใจกลศาสตร์ควอนตัมอะไรพวกนี้เลย ไม่สำคัญว่ามันยากแค่ไหนหรือมีคนพยายามอธิบายให้ผมฟังกี่ครั้งก็ตาม คงมีประชากรสัก 0.0001 เปอร์เซ็นในโลกใบนี้ที่มีสมองเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ผมเริ่มเข้าใจแล้วนะว่าคนเหล่านี้กำลังพยายามจะทำอะไร ในเชิงกรอบความคิด”
แม้ว่าออพเพนไฮเมอร์จะมีส่วนในการหยุดสงครามโลก แต่เขาก็เคยพูดอย่างเปิดอกว่าเขาเสียใจที่มีส่วนร่วมในการสร้างอาวุธที่คร่าชีวิตผู้คนนับล้านขึ้นมา ซึ่งเมอร์ฟีมองว่ามันเป็นแง่มุมที่น่าสนใจ
นอกจากเมอร์ฟีแล้ว หนังยังมี เอมิลี่ บลันท์, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, แมต เดม่อน, ฟลอเรนซ์ พิวจ์, รามี มาเลค และ เบนนี แซฟดี่ ร่วมแสดงด้วย
หนังมีกำหนดฉายในสหรัฐฯ วันที่ 21 กรกฎาคม 2023