คริสเตียน เบล นับว่าเป็นนักแสดงมากความสามารถที่มักไม่มีปัญหาเรื่องการสวมบทเป็นตัวละครที่ได้รับมอบหมาย แต่ดูเหมือนว่าในหนังเรื่องล่าสุดอย่าง Amsterdam คริส ร็อค นักแสดงสมทบของเรื่องกลับทำให้เขามีปัญหาในจุดนี้ครับ
เพราะเบลได้เล่าระหว่างให้สัมภาษณ์กับ IndieWire ว่าหลังจากได้คุยกับร็อค เขาก็พบว่าตัวเองทำหน้าที่ของตัวเองไม่ค่อยจะถูก
“ผมจำวันแรกของเขาได้ ผมตื่นเต้นมากที่ได้เจอเขา ผมเป็นแฟนตัวยงของเดี่ยวไมโครโฟนของเขา พอเขามาถึง เขาก็ทำอะไรบางอย่าง เดวิด (โอ. รัสเซลล์, ผู้กำกับ) บอกให้เขาเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผมไม่รู้ว่าเขาจะเล่าให้ผมฟัง ซึ่งเป็นอะไรที่เดวิดมักทำอยู่บ่อยๆ และผมก็ชอบมาก”
“แต่คริสเป็นคนตลกมากเสียจนผมแสดงต่อไม่ได้ เพราะผมกลายเป็นคริสเตียนที่หัวเราะเพราะมุกของ คริส ร็อค ผมจึงต้องเข้าไปหาเขาและบอกว่า ‘นี่เพื่อน ผมชอบที่ได้คุยกับคุณนะ เราเป็นเพื่อนกัน แต่ผมไม่ไหวแล้ว เพราะเดวิดไม่ได้ขอให้ผมมาเล่นหนังเรื่องนี้เพื่อที่จะมาดูผมหัวเราะคิกคัก เขาอยากให้ผมเป็นเบิร์ต และผมก็กำลังจะลืมว่าจะเป็นเบิร์กยังไง'”
และวิธีแก้ปัญหาของเบลก็คือการตีตัวออกห่างร็อคขณะอยู่ในกองถ่าย
“ผมเจอคนเก่งอยู่บ่อยๆ แต่ผมต้องแยกตัวเองออกมา เพราะถ้าผมรู้จักพวกเขามากเกินไป ผมจะไม่เชื่อสิ่งที่ผมกำลังเล่นอยู่ในฉากนั้น”
Amsterdam เป็นหนังแนวอาชญากรรมโรแมนติกที่มีฉากหลังเป็นยุค 1930 บอกเล่าเรื่องของเพื่อนสามคนที่พบว่าตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางของแผนการลับที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา นำแสดงโดย คริสเตียน เบล, มาร์โก้ต์ ร็อบบี้ และ จอห์น เดวิด วอชิงตัน สมทบด้วย เทย์เลอร์ สวิฟท์, คริส ร็อค, ไมเคิล แชนนอน, อันยา เทย์เลอร์-จอย และ โรเบิร์ต เดอ นิโร
กำกับและเขียนบทโดย เดวิด โอ รัสเซล (Silver Linings Playbook, Ameican Hustle) มีกำหนดฉายในอเมริกา 4 พฤศจิกายนนี้