ในปี 2013 ในข้อมูลที่หลุดมาจากการที่โซนี่ถูกแฮ็กมีการเปิดเผยว่า ผู้กำกับ เดวิด โอ. รัสเซล ข่มเหง เอมี อดัมส์ ระหว่างถ่ายทำหนังเรื่อง American Hustle ซึ่งเลวร้ายจนถึงขั้นที่เพื่อนนักแสดงอย่าง คริสเตียน เบล ต้องเข้าไปปกป้องเธอ
ล่าสุดระหว่างที่เบลให้สัมภาษณ์กับ GQ เขาเรียกตัวเองว่าเป็น “คนกลาง” ที่คอยไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของรัสเซลและอดัมส์ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ไปจนหนังจะเสร็จ
“ถ้าผมสามารถเข้าใจที่มาที่ไปของมันได้ ผมมักจะพยายามทำตัวเป็นคนกลาง นั่นเป็นนิสัยของผม ที่พยายามจะพูดว่า ‘เฮ้ ไม่เอาน่า ปล่อยมันไปเถอะ นั่งลงแล้วมาหาทางกันเถอะ มันต้องมีทางให้ทุกอย่างมันเวิร์กสิ'”
ในปี 2016 อดัมส์เคยให้สัมภาษณ์ว่ารัสเซลโหดกับเธอมาก และนั่นไม่เพียงแต่ทำให้เธอร้องไห้เท่านั้น แต่ยังทำให้เธอรู้สึก “แหลกสลาย” กลับบ้านเกือบทุกวัน จนทำให้เธอไม่อยากกลับไปร่วมงานกับรัสเซลอีก
นอกจากนี้ หนึ่งในอีเมลที่รั่วไหลออกมาจากการถูกแฮ็กของโซนี่ยังบอกว่ารัสเซลด่าทออดัมอย่างรุนแรงในกองถ่ายหนัง และ “การล่วงละเมิดและพฤติกรรมที่เสียสติของเขานั้นสุดโต่งแม้จะเทียบกับมาตรฐานของฮอลลีวูดเองก็ตาม”
เบลกล่าวในสัมภาษณ์ต่อว่าการเข้าไปแทรกแซงและทำหน้าที่เป็นคนกลางเป็นการกระทำที่เหมาะสมในสไตล์ของ เออร์ฟ ตัวละครที่เขารับบทในหนัง และเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกับหนังต่างไปจากเดิม เช่นเดียวกับอดัมส์ที่ก็เคยบอกเขาว่าอย่าปล่อยให้ความขัดแย้งนั้นส่งผลกับความเพลิดเพลินในการรับชมหนัง
“คุณต้องจำไว้ว่ามันเป็นนิสัยของตัวละครด้วยเช่นกัน ใช่ไหม ตัวละครเหล่านั้นไม่ใช่คนที่ยอมจำนนต่อสิ่งใด ใช่ไหมครับ?”