ถ้า Thor: The Dark World เป็นก้าวที่ผิดพลาดของมาร์เวลในการขยายโลกของจักรวาลหนังมาร์เวลที่ต่อจากหนัง The Avengers ฉะนั้นคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า Captain America: The Winter Soldier คือหนังที่เข้ามากอบกู้จักรวาลนี้ด้วยการพาผู้ชมได้เห็นสิ่งที่แตกต่างจากหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆ และกลายเป็นกระดูกสันหลังของมาร์เวลที่ยกระดับแฟรนไชส์ให้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ในเบื้องหลังการสร้าง มาร์เวลเริ่มคิดหาไอเดียของหนังภาคต่อนี้ ก่อนที่ Captain America: The First Avenger จะออกฉายเสียอีก โดยการดึงตัวมือเขียนบท คริสโตเฟอร์ มาร์คัส และสตีเฟ่น แม็คฟีลี กลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง ซึ่งเดิมทีพวกเขาคิดหนังเล่าย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมากขึ้น แต่ก็ลงเอยด้วยการจับความเป็นสายลับและทฤษฎีสมคบคิดเข้ามาใส่ในหนัง ซึ่งแตกต่างจากความเป็นหนังสงครามของภาคแรกอย่างสิ้นเชิง
มาร์คัสและแม็คฟีลีมีอิสระมากในการเขียนเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมา ยกเว้นว่าต้องใส่องค์ประกอบสองอย่างนี้ที่ เควิน ไฟกี ต้องการเข้าไป ได้แก่ เรือบินขนาดยักษ์ในตอนท้ายของหนัง และการล่มสลายขององค์กรชิลด์ในตอนจบ ซึ่งทั้งคู่ได้นำแรงบันดาลจากหนัง Three Days of the Condor, The Parallax View และ Marathon Man มาใส่ด้วยการบีบบังคับให้ สตีฟ โรเจอร์ ต้องเผชิญหน้ากับโลกที่เขาไม่คุ้นเคย และองค์กรที่มีเงามืดซุกซ่อนอยู่
เมื่อถึงคราต้องเลือกผู้กำกับ มาร์เวลก็ไม่คิดจะเอาเบอร์ใหญ่อย่าง จอน เฟฟโร หรือเคนเนธ บรานาห์ อีกแล้ว แต่หันไปมองเบอร์เล็กๆ อย่าง จอร์จ โนลฟี (The Adjustment Bureau), เอฟ. แกรี เกรย์ (The Italian Job) และแอนโธนี่และโจ รุสโซ่ แทน ซึ่งสองคนหลังเคยจับงานกำกับมาเพียงสองเรื่อง คือ You, Me และ Dupree เพราะส่วนใหญ่พวกเขาขลุกอยู่กับการกำกับและอำนวยการสร้างทีวีซีรีส์เสียมากกว่า
ในเดือนเมษายน 2012 เกรย์หันไปกำกับ Straight Outta Compton แทน เลยทำให้ในเดือนมิถุนายน พี่น้องรุสโซ่ได้งานนี้ไป ซึ่งถึงแม้ทั้งคู่จะกำกับตอนนำร่องและอีกหลายๆ ตอนของซีรีส์สุดแหวก Arrested Development แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาไปเตะตามาร์เวลกลับเป็นการกำกับซีรีส์ Community จำนวนสองตอน และตอนที่ไปเจอกับมาร์เวล พวกเขาก็แสดงความหลงใหลที่มีต่อตัวละครกัปตันอเมริกาเป็นอย่างมาก
ระหว่างงาน San Diego Comic-Con 2012 มาร์เวลได้ประกาศว่าพี่น้องรุสโซ่จะกำกับหนัง Captain America: The Winter Soldier ที่อิงเนื้อเรื่องมาจากคอมมิคของ เอ็ด บรูเบเกรอ์ ที่เป็นการนำพา บัคกี้ บาร์นส์ กลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนเก่า สตีฟ โรเจอร์ ในฐานะนักฆ่าผู้ถูกล้างสมอง ซึ่งได้ เซบาสเตียน สแตน มารับบทนี้
เคยมีช่วงหนึ่งที่ ฮอว์คอาย ของเจเรมี่ เรนเนอร์ มีบทอยู่ในหนังนอกเหนือจาก นาตาชา โรมานอฟฟ์ ของสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน ด้วย แต่ภายหลังมาร์เวลตัดสินใจตัดฮอว์คอายออก และใส่ตัวละครใหม่อย่างฟอลคอนของเข้าไปแทน ซึ่งมาร์เวลก็เลือก แอนโธนี่ แม็คกี้ เข้ามารับบทฟอลคอนโดยที่เขาไม่ต้องออดิชั่นเลย ก่อนที่จะหันไปค้นหานักแสดงโนเนมเพื่อบท ชาร์รอน คาร์เตอร์
มาร์เวลเล็งนักแสดงอยู่หลายคนมากสำหรับคาร์เตอร์ ได้แก่ เอมิเลีย คลาร์ก, อลิสัน บรี, อิโมเจน พูทส์, เทเรซา พาล์เมอร์ และเจสซิก้า บราว์น ฟินด์เลย์ แต่สุดท้าย เอมิลี่ แวน แคมป์ ที่กำลังโด่งดังจากซีรีส์ Revenge ก็เป็นคนคว้าบทนี้ไป
ส่วนตัวร้าย ครอสโบน มาร์เวลเคยเล็ง จอช ฮอลโลเวอย์ (Lost) และนิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู (Game of Thrones) ไว้ ก่อนที่ แฟรงค์ กริลโล จะเป็นคนได้ไป
แซมมัว แอล. แจ็คสัน และโคบี สมัลเดอส์ กลับมารับบทเดิมอีกครั้งในบทบาทที่สำคัญขึ้น แต่ที่น่าตกใจสำหรับแฟนๆ คงเป็นการประกาศว่าดาราชื่อดังอย่าง โรเบิร์ต เรดฟอร์ด เข้ามาสมทบในบทเจ้าหน้าที่อวุโสของชีลด์ และก็กลายเป็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นดารารุ่นใหญ่เข้ามาร่วมวงในหนัง MCU
การถ่ายทำหนังเริ่มในเดือนเมษายน 2013 และออกฉายในเดือนเมษายนในปีถัดไป ก่อนที่จะทำรายได้ในสัปดาห์เปิดตัวมากกว่า $95 ล้าน และทำรายได้ทั่วโลกไปทั้งสิ้น $714.2 ล้าน ซึ่งเกือบจะเป็นสองเท่าของรายได้ตลอดการฉายของหนังภาคแรกเลยทีเดียว
นี่เป็นเรื่องที่พิสูจน์ว่ามาร์เวลเลือกคนไม่ผิด เพราะนอกจาก The Winter Soldier พี่น้องรุสโซ่ได้กำกับหนังมาร์เวลอีกสามเรื่อง ซึ่งเป็นหนังรวมฮีโร่ทั้งสิ้น ได้แก่ Captain America: Civil War, Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame
4 เมษายน ครบรอบ 7 ปี Captain America: The Winter Soldier