ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ผู้กำกับ ไรอัน คูกเลอร์ เปิดเผยว่าเรื่องราวต้นฉบับของหนัง Black Panther: Wakanda Forever จริงๆ แล้วมันเกี่ยวกับพ่อกับลูกที่ต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกร่วมกัน แต่การเสียชีวิตของ แชดวิก โบสแมน ทำให้ทิศทางหนังเปลี่ยนไปอย่างที่เราได้ชมกัน
“มันจะเป็น ‘เราจะทำยังไงกับบลิปดี?’ ใน Avengers: Infinity War ทีชัลล่าเป็นหนึ่งในหลายพันล้านคนที่หายตัวไปอย่างกระทันหัน และถูกอเวนเจอร์ดีดนิ้วกลับมาในอีกห้าปีต่อมา นั่นคือความท้าทาย มันจะไม่เหมือนกับอะไรที่เราสร้าง มันจะเป็นเรื่องราวของพ่อลูกจากมุมมองของพ่อ เพราะหนังเรื่องแรกเป็นเรื่องราวพ่อลูกจากมุมมองของลูกชาย”
“ในบท ทีชัลล่าเป็นพ่อที่ถูกบีบให้ต้องหายไปจากชีวิตของลูกเป็นเวลาห้าปี ฉากแรกจะเป็นแอนิเมชั่น คุณจะได้ยินเสียของนาเคียคุยกับตูซองต์ เธอพูดว่า ‘ลูกบอกแม่ได้ไหมว่าลูกรู้อะไรเกี่ยวกับพ่อบ้าง’ เขาไม่รู้ว่าพ่อเขาคือแบล็คแพนเธอร์ เขาไม่เคยเจอพ่อมาก่อน นาเคียแต่งงานใหม่กับชายชาวเฮติ จากนั้นเราก็ตัดเข้าสู่ความเป็นจริง และคืนทุกคนกลับมาจากบลิป แล้วคุณก็จะเห็นทีชัลล่าเจอลูกของเขาเป็นครั้งแรก”
“แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกสามปี เขาต้องเลี้ยงดูบุตรร่วม เรามีฉากบ้าๆ ให้แชดด้วย โค้ดเนมสำหรับหนังของเราคือ Summer Break และหนังมันเกี่ยวกับหน้าร้อนที่เด็กใช้เวลาอยู่ร่วมกับพ่อของเขา ในวันเกิดปีที่แปดของเขา พวกเขาจะทำพิธีกรรมที่พวกเขาต้องออกไปจากเขตแดนและอาศัยอยู่นอกประเทศ แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น ทีชัลล่าต้องไปกอบกู้โลกพร้อมกับลูกชายของเขา นั่นคือหนังเรื่องนี้”