เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้วที่ เบน แอฟเฟล็ค ยืนยันว่าได้เกษียณจากการรับบทเป็นแบทแมน ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยตั้งใจรับหน้าที่กำกับ เขียนบทและรับบทนำ ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเป็น แมตต์ รีฟส์ เข้ามากำกับและ โรเบิร์ต แพตทินสัน เข้ามารับบทแทนเขา
ล่าสุดแอฟเฟล็คได้เปิดอกคุยอย่างตรงไปตรงมากับ New York Times ถึงการเดินออกจากการเป็นอัศวินรัติกาลในครั้งนั้นว่า เขาเหนื่อยกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการถ่ายทำ Justice League จนทำให้เขาหมดความสนใจ ซึ่งดูเหมือนว่าการรับบทเป็นแบทแมนจะไม่ใช่เรื่องบันเทิงสำหรับเขามาตั้งแต่แรกแล้ว สังเกตได้จากช่วงเดินสายโปรโมท Batman v Superman: Dawn of Justice ในปี 2016 ที่ได้ก่อกำเนิดมีม Sad Affleck ขึ้นมา อีกทั้งในช่วงนั้นแอฟเฟล็คต้องเผชิญปัญหาโรคพิษสุราเรื้อรังและการหย่าร้างกับอดีตภรรยา เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ ด้วย
“ผมเคยเอาบทหนัง The Batman ให้ใครสักคนดู” แอฟเฟล็คเล่า “พวกเขาบอกผมว่า ‘ฉันคิดว่าบทมันดีมากเลยนะ แต่ฉันก็คิดว่านายจะเมาเละจนตายเอาได้ ถ้ายังขืนจะทำอะไรต่อมิอะไรเหมือนที่ผ่านมา”
แอฟเฟล็คไม่ได้เล่าอะไรมากนักเกี่ยวกับการบำบัดโรคพิษสุราเรื้อรังครั้งที่สามในปี 2018 (สองครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2001 และ 2017) แต่เขาได้พูดถึงความน้ำใจงามของสองเพื่อนนักแสดงอย่าง แบรดลีย์ คูเปอร์ และ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในฐานะคนที่คอยสนับสนุนและคนที่ทำให้เขารู้สึกขอบคุณ
“สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับการฟื้นฟูที่ผมคิดว่าบางคนได้มองข้ามไป ก็คือความจริงที่ว่ามันได้ย้ำคุณค่าบางอย่าง ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การช่วยเหลือผู้อื่น ขอโทษเมื่อคุณทำผิด”
ปัญหามากมายที่ผ่านมาเป็นส่วนช่วยทำให้แอฟเฟล็คตัดสินใจเล่น The Way Back หนังที่เขาได้รับบทเป็นพ่อหม้ายและอดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลผู้เก่งกาจ ผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาเสพติดสุราและพยายามที่จะฟื้นฟูตัวเองด้วยการกลับมาเป็นโค้ชให้กับทีมบาสเก็ตบอลในโรงเรียนเก่าของเขา
“ผมไม่เคยเป็นคนที่กลัวความเสี่ยงเลย ไม่ว่าจะดีหรือแย่ ซึ่งสำหรับหนัง The Way Back นั้นเป็นผลดีต่อผม ห่างไกลกับคำว่าเสี่ยงลิบลับ ผมพบว่ามันเป็นการบำบัดที่ดีมากๆ ด้วยซ้ำ”
หนังกำกับโดย เกวิน โอ’คอนเนอร์ และร่วมเขียนบทกับ แบรด อินเกลสบี้ เตรียมฉายในอเมริกา 6 มีนาคมนี้