หน้าแรก News วอร์เนอร์ฯ ตัดสินใจไม่ฉายหนัง Batgirl ในโรงภาพยนตร์และ HBO MAX

วอร์เนอร์ฯ ตัดสินใจไม่ฉายหนัง Batgirl ในโรงภาพยนตร์และ HBO MAX

ล่าสุดมีรายงานว่าวอร์เนอร์ฯ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ประกาศไม่ฉาย Batgirl ทั้งในโรงภาพยนตร์และ HBO MAX เป็นผลให้หนังทุนสร้าง $90 ล้านเรื่องนี้ตายกลางอากาศไปโดยปริยาย แม้จะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายในการตัดต่อแล้วก็ตาม

Batgirl เป็นหนังที่รับบทนำโดย เลสลี เกรซ (ในบท บาร์บารา กอร์กอน), เบรนแดน เฟรเซอร์ (ในบท ไฟเออร์ไฟล์), เจเค ซิมมอนส์ (ในบท จิม กอร์ดอน) และ ไมเคิล คีตัน (ในบท บรูซเวย์น) กำกับโดย อาดิล เอล อาร์บิ และ บิอาลฟาลลาห์ จากหนังและซีรีส์คำวิจารณ์ดีอย่าง Bad Boys For Life และ Ms. Marvel

หนังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างหนังเพื่อฉายทาง HBO MAX แต่เมื่อ Discovery ได้เข้าซื้อ Warner Bros ทำให้ลำดับความสำคัญของบริษัทเปลี่ยนกลับไปยังรูปแบบการฉายโรงอีกครั้ง

ทว่า Batgirl ไม่ใช่หนังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหนังฉายโรงตั้งแต่แรก  ด้วยทุนสร้างเริ่มต้นที่ $75 ล้านและเพิ่มสูงขึ้นจากการถ่ายซ่อมและความปลอดภัยด้านโควิด ทำให้หนังมีทุนสร้างเพิ่มสูงถึง $90 ล้าน ทำให้การนำหนังลงสตรีมมิ่งไม่สมเหตุสมเหตุสมผลด้านการเงินอีกต่อไปภายใต้กลยุทธ์ใหม่ของบริษัท

นอกจากนี้ ข้อมูลอีกด้านหนึ่งได้บอกว่าการตัดสินใจไม่ฉายหนังอาจเป็นผลมาความต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านภาษีครับ

แหล่งข่าวบอกว่าเนื่องจาก Batgirl ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้การบริหารที่แตกต่างกันของวอร์เนอร์ฯ ที่ซึ่งเคยนำโดย เจสัน คิลลาร์ และ แอนน์ แซร์นอฟฟ์ ที่มุ่งเป้าหลักไปที่การฉายสตรีมมิ่งผ่าน HBO MAX และการตัดสินใจขั้นเลวร้ายเมื่อปล่อยฉายหนังทุกเรื่องในปี 2021 ในโรงภาพยนตร์และสตรีมมิ่งพร้อมกัน ทำให้นักแสดงและคนทำหนังหลายรายออกมาแสดงความไม่พอใจ (แต่หลังจากนั้นก็มีการจ่ายโบนัสเพิ่มเติมแล้ว)

เมื่อ เดวิด ซาสลาฟ เข้ารับตำแหน่งซีอีโอในวอร์เนอร์ฯ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี เขาพยายามจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนนักสร้างสรรค์ภาพยนตร์อีกครั้ง ด้วยคำมั่นที่ว่าจะฉายหนังในโรงภายนตร์ก่อนลงฉายแบบสตรีมมิ่ง

แต่สำหรับ Batgirl กลับกลายเป็นหนังที่ไม่ใหญ่พอที่จะฉายโรง และไม่เล็กพอที่คุ้มค่าพอที่จะทำตลาดในสตรีมมิ่ง เนื่องจากหนังต้องใช้เงินราวๆ $30 ถึง $50 ล้านในการทำตลาดในอเมริกา และอีกหลายสิบล้านดอลลาร์สำหรับการเปิดตัวทั่วโลก ทำให้การยกเลิกการฉาย Batgirl (และหนังแอนิมชั่นภาคต่อ Scoob!: Holiday Haunt ที่ประกาศออกมาพร้อมกัน) จึงถูกมองว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมทางการเงินมากที่สุดและสามารถใช้ลดค่าใช้จ่ายด้านภาษีได้ด้วย

แปลว่าการจะทำเช่นนี้ทำให้วอร์เนอร์ฯ ไม่สามารถทำรายได้จากหนังที่ยกเลิกฉายไปได้ รวมถึงไม่มีการเปิดตัวใน HBO MAX ในอนาคต และการขายหนังให้กับสตูดิโออื่นด้วย