หน้าแรก News “Avengers: Endgame จะเปลี่ยนแปลง MCU ไปตลอดกาล” เผย 10 ประเด็นสำคัญโดยผู้กำกับและมือเขียนบท

“Avengers: Endgame จะเปลี่ยนแปลง MCU ไปตลอดกาล” เผย 10 ประเด็นสำคัญโดยผู้กำกับและมือเขียนบท

ในขณะที่จักรวาลหนังมาร์เวลตลอด 10 ปีที่ผ่านมากำลังจะเข้าใกล้บทสรุปเข้ามาทุกที Avengers: Endgame หนังที่ทำหน้าที่นี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีข้อมูลอะไรออกมามากนักนอกจากตัวอย่างไม่กี่ตัว แต่ล่าสุดในนิตยสาร Empire ที่ได้เข้าไปสัมภาษณ์ เควิน ไฟกี หัวเรือใหญ่มาร์เวลสตูดิโอ, ผู้กำกับ โจ และ แอนโธนี่ รุสโซ่ และมือเขียนบท คริสโตเฟอร์ มาร์คัส กับ สตีเฟ่น แม็คฟีลีย์ เราจึงได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังมากขึ้น รวมถึงเกร็ดเล็กน้อยจาก Avengers: Infinity War แต่ย้ำตรงนี้ว่าบทความนี้ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของหนังนอกเหนือจากการโปรโมท มีเพียงแต่แสดงความเห็นถึงประเด็นต่างๆ ครับ

หนังที่เกือบไม่มีการตลาด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Avengers: Endgame เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่แทบไม่มีการโปรโมทหนังแบบหนังหน่วง เพราะที่ผ่านมามีแค่ใบปิดใบเดียว ตัวอย่าง 2 ตัว และสป็อต 1 ตัว ซึ่งนี่อาจไม่เพียงพอสำหรับบางคน แต่เป็นผลดีสำหรับหนังที่ต้องการความลับ แล้วสำหรับมาร์เวลสตูดิโอล่ะ พวกเขาต้องการที่จะไม่ทำการตลาดใดๆ กับหนังเรื่องนี้หรือไม่?

“เราทำครับ” ผู้กำกับ โจ รุสโซ่ ยืนยัน “เราพูดถึงขนาดของการตลาดกันทุกรูปแบบ”

“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือเราจะรักษาความเซอร์ไพรส์ของการเล่าเรื่อง ตอนผมยังเด็กและไปดู The Empire Strike Back ตอน 11 โมงเช้าวันที่หนังฉายวันแรก ผมนั่งอยู่ที่นั่นจนถึง 4 ทุ่ม ดูต่อกันยาวๆ ไม่หยุด มันทำให้ผมสะเทือนใจมากๆ เพราะผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเลยก่อนที่จะเข้าไปดู ซึ่งเราพยายามทำเกิดประสบการณ์แบบนั้นซ้ำอีก”

 

เควิน ไฟกี รู้สึกเสียใจไหมที่ทำให้มีตัวละครตาย?

ใน Avengers: Infinity War ตัวละครหลายตัวต้องล้มตายไปเพราะการฆ่าล้างบางจักรวาลของธานอส โดยเฉพาะตัวละครที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Spider-Man, Black Panther หรือตัวละครชื่อดังอย่างแก๊งค์การ์เดี้ยนบางส่วน แต่สำหรับ เควิน ไฟกี เขาเคยรู้สึกเสียใจกับการเลือกที่จะเล่าเรื่องอันกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่?

“ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์กับตอนจบ” ไฟกีบอก “กระทั่งถึงวันจันทร์ก่อนที่หนังจะฉาย ตอนนั้นผมเริ่มกังวล ผมรู้สึกว่า ‘เดี๋ยวนะ นี่เราทำอะไรลงไป?’ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การนำไปสู่ตอนจบแบบนั้น คนมักคิดว่า ‘หนังพวกนี้เดาได้ทั้งนั้น สุดท้ายพวกคนดีก็ชนะตลอดแหละ”

“และตลอดหลายปีนั้นเองผมก็คิดว่า ‘รอดูละกัน'”

 

เหตุการณ์ดีดนิ้ว เกือบถูกเก็บไว้ให้เกิดขึ้นในหนัง Avengers: Endgame

“เรามีเรื่องราวมากมายในบทร่างฉบับแรกๆ ของ Infinity War เราเคยคิดว่าเราไม่ควรใส่เหตุการณ์ดีดนิ้วกระทั่งถึงตอนจบองค์แรกของ Endgame” มือเขียนบท สตีเฟ่น แม็คฟีลีย์ กล่าว ในขณะเดียวกันเขาก็ยืนยันว่าการดัดแปลงโมเมนท์จากคอมมิคนั้นสำคัญเสมอ “เราคุยกันเรื่องตอนจบกันเป็นปีแล้วปีเล่า มันเป็นเหตุผลที่ต้องดัดแปลงเรื่อง Infinity Gauntlet”

“เรื่องที่จะทำให้คนช็อคถึงขีดสุดที่เราจะทำได้คืออะไร?”แม็คฟีลีย์ตั้งข้อสังเกต “หนังจบตอนที่ดีดนิ้วไง”

ถึงแม้ผู้ชมบางส่วนคิดว่าการจบแบบค้างเติ่งแบบนี้เป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับการดูหนัง แต่ไฟกีก็ย้ำชัดว่า “ผมเข้าใจว่าทำไมผู้ชมถึงใช้คำนั้นกัน แต่มันมาถึงจุดจบแล้ว และจุดจบนั้นก็คือธานอสชนะ”

 

อะไรที่ทำให้ Avengers: Endgame แตกต่างจาก Avengers: Infinity War

ผู้กำกับสองพี่น้องรุสโซ่ชี้ให้เห็นว่าตอนจบของ Infinity War ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูดว่า “เอาล่ะ เราไม่มีไอเดียเลยว่าจะให้เรื่องราวไปต่อจากตรงนี้ยังไง เราเพิ่งฆ่าตัวละครไปครึ่งนึงเลยนะ”

แม็คฟีลีย์กล่าวเสริมว่าหลังจากการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของธานอสใน Infinity War ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน Endgame ก็คือพวกเขาจะกลับไปโฟกัสที่เหล่าฮีโร่บนโลกอีกครั้ง “ใน Infinity War เรามี 23 ตัวละครบนใบปิด นั่นเป็นการบังคับจังหวะการเล่าเรื่องและรูปแบบของหนัง”

“แต่ตอนนี้มี 9 ตัวละครบนใบปิดของ Endgame ดังนั้นเราอาจได้เล่าเรื่องในรูปแบบที่ต่างออกไป”

 

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

(ย่อหน้านี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ Avengers: Endgame ในแง่ของอารมณ์ตัวละคร)

“จุดเริ่มกระโดดสำหรับ Endgame ก็คือคำถามที่ว่า ‘คุณจะก้าวต่อไปยังไงเมื่อคุณสูญเสีย” ผู้กำกับ แอนโธนี่ รุสโซ่ กล่าว “หนทางแบบไหนที่จะได้จากประสบการณ์แบบนั้น?”

แม็คฟีลีย์กล่าวเสริมว่า “ธอร์ไม่โทษใครนอกจากตัวเขาเอง และเขารู้สึกผิดมากๆ” สำหรับความล้มเหลวของการฆ่าธานอสในช่วงสุดท้าย

“ผมไม่อยากบอกว่ามันเป็นมุกตลกประชดประชัน” แม็คฟีลีย์พูดถึงหนังองค์แรก “แต่มันมากจากมุมที่ดาร์คกว่า”

 

ทำไมเหล่าฮีโร่ที่ถูกดีดนิ้วถึงไม่เลือนหายไปเฉยๆ

สำหรับในคอมมิค หลังจากดีดนิ้วคนครึ่งจักรวาลได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งต่างจากฉบับหนังที่กลายเป็นขี้เถ้าต่อหน้าต่อตา เควิน ไฟกี ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่เปลี่ยนแปลงจากฉบับคอมมิคก็เพื่อตอกย้ำถึงความสูญเสีย

“แดน เดอลูว์ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคพิเศษและทีมเทคนิคพิเศษของเราสร้างเอฟเฟ็คขี้เถ้าขึ้นมา เราไม่ต้องการให้คนแค่หายไปเฉยๆ และทำให้พวกเขาคิดว่าคนพวกนั้นโดนเทเลพอร์ตไปที่ไหนสักแห่ง ผมต้องการทำให้มันดูเป็นสิ่งที่ถาวรมากกว่านั้น”

 

ปฏิกิริยาจากรอบทดลองฉาย

(ย่อหน้านี้เปิดเผยความรู้สึกของคนดูรอบทดลองฉาย Avengers: Endgame)

ตอนที่เราฉายรอบทดลอง เราสามารถตัดสินปฏิกิริยาที่แท้จริงได้จากตอนที่เสียงปรบมือเริ่มดังขึ้น” เควิน ไฟกี กล่าว “แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่เลย เงียบงัน ปฏิกิริยาที่ดีที่สุดหลังจากนั้นก็คือคงเป็นแบบ ‘ฉันเกลียดมันนะ แต่ฉันก็รักมัน’ ‘ฉันเกลียดมันนะ แต่ฉันเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น”

ไฟกียังเปิดเผยด้วยว่าเขามีแผนที่จะฆ่าตัวละครระดับบิ๊กๆ อย่างเช่นไอ้แมงมุมตั้งแต่ช่วงเริ่มถ่ายทำแล้ว เขาบอกว่ามันเป็น “การถ่ายทำตอนวันสองวันแรกของสิ่งที่จะเป็นกระบวนการสร้างตลอดเกือบสองปี”

 

Avengers: Endgame จะเป็นการเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่

แอนโธนี่ รุสโซ่ ได้เน้นย้ำอย่างจริงจังว่า Avengers: Endgame จะเป็น “การเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่” และแม็คฟีลีย์ก็ได้สัญญาอีกว่า “มันคือที่สุด มันยิ่งใหญ่ที่สุด”

ถึงจะพูดออกมาแค่นี้ แต่เชื่อได้ว่าหนังเรื่องนี้จะพาเราไปสู่สิ่งที่ไม่คาดคิดแน่นอน

 

Avengers: Endgame จะเปลี่ยนแปลง MCU ไปตลอดกาล

“เราอยู่ในดินแดนที่ต่างออกไป ซึ่งอาจเป็นมากกว่าที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ในแง่ของซีรีส์ภาพยนตร์” มือเขียนบท คริสโตเฟอร์ มาร์คัส บอกในทำนองว่าหนัง Endgame จะส่งผลกระทบต่อโลกที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด

“MCU จะยังคงอยู่ต่อไป ใครที่อยู่ในนั้นคือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตลอด เพราะมันเชื่อมต่อกันทั้งหมด คุณไม่สามารถยกเครื่องใหม่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ ทุกๆ ส่วนจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน สิ่งต่างๆ ดำเนินไปเรื่อยๆ ก็เหมือนชีวิต ความสูญเสียคือของจริง การเปลี่ยนแปลงคือของจริง”

ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยรับรู้อะไรเลยว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป “มันไม่ใช่แค่การสปอยล์ มันเกี่ยวกับการโฟกัสกับสิ่งที่เราทำลังทำอยู่” ไฟกีเสริม

 

Avengers: Endgame จะโฟกัสไปที่เหล่าอเวนเจอร์สรุ่นแรกทั้ง 6 คน (The Original Six)

“เขาเป็นคนของเราตั้งแต่เราเริ่มที่มาร์เวล” มาร์คัสพูดถึงกัปตันอเมริกาด้วยความนับถือ “เขาเป็นบารอมิเตอร์ของทีม หากคุณมองไปที่กัปตันอเมริกา และหากเขายังสู้ คุณก็จะสู้ต่อ แต่หากเขานั่งลงพื้นพร้อมพูดว่า ‘พระเจ้า (Oh God)’ นั่นหมายความว่าคุณแพ้แล้วจริงๆ”

“ผู้ชมมักบอกว่ากัปตันไม่ได้มีบทใน Infinity War มากนัก” ไฟกีพูดต่อ “และไอร์ออนแมนก็ไม่ได้พูดอะไรเลยในช่วงชั่วโมงสุดท้ายเพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ตัวละครเหล่านี้ และตัวละครดั้งเดิมทั้ง 6 คน จะถูกโฟกัสอย่างมากใน Endgame ด้วยวิธีเล่าที่เป็นส่วนตัวและสะเทือนอารมณ์มากๆ”

หนังมีกำหนดฉายในบ้านเรา 24 เมษายนนี้