Avatar ถือเป็นมุดหมายสำคัญของหนังในโรงภาพยนตร์ ด้วยความที่เป็นหนึ่งในหนังสามมิติที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น และเทคนิคพิเศษที่อลังการงานสร้างในแบบที่หนังเรื่องอื่นยากที่จะมี โจทย์ใหญ่ที่สุดของหนังภาคต่อที่จะตามมาอีก 4 ภาคก็คือ จะทำยังไงให้มันอยู่ในระดับเดียวกับหนังภาคแรกให้ได้ เพื่อให้ผู้ชมปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่ไปชมในโรงภาพยนตร์
เพราะโจทย์ใหญ่นี้เอง ทำให้ผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน เลือกที่จะโยนหลายๆ ไอเดียของภาคต่อทิ้งไป “เราสร้าง แล้วก็ทิ้งหลายๆ เรื่องราวของหนังภาคสองและสามไป เพราะพวกมันไม่สามารถส่งต่อความรู้สึกของการเพ้อฝันด้วยตาที่เบิกกว้างได้”
คาเมรอนยังเล่าด้วยว่า เขาเคยขู่จะไล่มือเขียนบทออก เพราะพวกเขาเอาแต่จะเขียนเรื่องราวใหม่ๆ ให้กับหนังภาคต่อ ทั้งที่ความต้องการของคาเมรอนก็คือวิเคราะห์หนังภาคแรกอย่างละเอียดเพื่อดูว่าอะไรเวิร์คหรือไม่เวิร์ค เพื่อหาความเชื่อมต่อให้กับหนังแต่ละภาค
“ตอนที่ผมลงมือเขียนบทภาคต่อ ผมรู้ว่าจะมีมือเขียนบทอีกสามคน ซึ่งรวมเป็นสี่ ผมรวมกลุ่มนักเขียนมาแล้วบอกว่า ‘ผมไม่อยากได้ยินไอเดียใหม่ๆ จากใคร จนกว่าเราจะใช้เวลาในการหาสิ่งที่เวิร์คในหนังภาคแรก สิ่งที่เชื่อมโยงกันคืออะไร และทำไมมันถึงจะเวิร์ค”
“พวกเขาเอาแต่อยากคุยเกี่ยวกับเรื่องราวใหม่ๆ ผมเลยพูดว่า ‘เราจะยังไม่ทำแบบนั้น’ จนแล้วจนรอดผมก็ต้องขู่ว่าจะไล่พวกเขาทุกคนออก เพราะพวกเขามักจะทำสิ่งที่มือเขียนบททำกัน คือการพยายามสร้างเรื่องราวใหม่ๆ ผมบอก ‘เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าอะไรคือความเชื่อมโยง และปกป้องมันไว้ให้ดี ปกป้องถ่านและเปลวไฟนั้นไว้”
ฟังดูเหมือนว่าคาเมรอนจะให้ความสำคัญกับการหาจุดเชื่อมโยงระหว่างภาคครับ แต่จะออกมาเวิร์คหรือไม่ก็คงต้องรอลุ้นในวันที่ Avatar 2 ออกฉาย คือวันที่ 16 ธันวาคม 2022