ในวันเดียวกันที่วอร์เนอร์ฯ ปล่อยตัวอย่างแรกของหนัง Aquaman and the Lost Kingdom เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา เอกสารจากการพิจารณาคดีหมิ่นประมาทระหว่าง แอมเบอร์ เฮิร์ด และ จอห์นนี่ เดปป์ ได้ถูกเผยแพร่สู่โลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งในนั้นมีบันทึกจาก ดร.ดอว์น ฮิวจ์ นักบำบัดของเฮิร์ดที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในกองถ่ายหนังภาคต่อ Aquaman
จากรายงานของวาไรตี้บอกว่าในนั้นเฮิร์ดได้กล่าวหา เจสัน โมมัว ผู้รับบทเป็นควาแมน ว่าเขามีอาการเมาเหล้าในกองถ่าย และแต่งตัวเหมือนเดปป์ อีกทั้งยังกดดันให้เฮิร์ดถอนตัวจากบทเมร่าไปเสีย
“เจสันบอกว่าเขาอยากให้ฉันถูกไล่ออก“ บันทึกระบุ “เขามากองสาย แต่งตัวเหมือนจอห์นนี่ สวมแหวนเหมือนเขาด้วย“
ตัวแทนของโมมัวปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่โฆษกของดีซีกล่าวว่าโมมัวประพฤติตัวอย่างเป็นมืออาชีพขณะอยู่ในกองถ่าย ในขณะที่คนอื่นๆ บอกว่า ”เจสันทำงานทุ่มเทอย่างหนัก เขาชอบดื่มเบียร์บ้างเหมือนกับทุกคน แต่ไม่เคยเมาเข้ากองถ่าย“
แหล่งข่าวที่เคยอยู่ในกองถ่ายที่ลอนดอนเมื่อปี 2021 บอกว่าโมมัวและเฮิร์ดเข้ากันได้ดีและเคยเห็นทั้งคู่พูดคุยกันขำขัน “และเขาไม่ได้แต่งตัวเหมือน จอห์นนี่ เดปป์ เขาแต่งตัวสไตล์โบฮีเมียนแบบนั้นตลอด“
นอกจากนี้ ในบันทึกยังระบุว่าเฮิร์ดรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้กำกับหนัง เจมส์ วาน และรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นคนที่สังคมรังเกียจเพราะการต่อสู้กับสามีเก่าของเธอในศาล
วานปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเช่นกัน แต่โฆษกของดีซีบอกว่า “เจมส์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาปฏิบัติต่อนักแสดงและทีมงานด้วยความเคารพ และเป็นที่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เป็นบวกและทำงานกันเป็นทีมในกองถ่าย ซึ่งหนัง Aquaman ก็ไม่มีข้อยกเว้น”
แหล่งข่าวของวาไรตี้บอกว่า หลังจากที่ Aquaman ภาคแรกออกฉายในปี 2018 วอร์เนอร์ฯ และวานตัดสินใจถอดแอมเบอร์ออกจากหนังภาคต่อ เพราะเธอกับโมมัวเคมีไม่เข้ากัน และการตัดสินใจนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีระหว่างเธอกับเดปป์
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวอีกแหล่งหนึ่งของวาไรตี้ก็ให้ข้อมูลว่าไม่เคยมีเรื่องเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเฮิร์ดและโมโมอาเคยทดสอบเคมีร่วมกันมาก่อน แถมเฮิร์ดยังเอาชนะนักแสดงหญิงอีกสองคนจนคว้าบทเมร่ามาได้ในที่สุด หนึ่งในนั้นคือ แอบบี้ ลี
สุดท้ายแล้ววอร์เนอร์ฯ ก็ไม่เคยไล่เฮิร์ดออกจากหนัง เพราะแฟนเก่าของเธอ อีลอน มัสก์ ได้ให้หนึ่งในทนายความของเขาส่งจดหมายขู่เผาบ้านถึงวอร์เนอร์ฯ เพื่อให้เฮิร์ดได้แสดงในหนังภาคต่อ ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่าวอร์เนอร์ฯ ยอมจำนนต่อมักส์และเฮิร์ดก็ได้อยู่ในหนังต่อไป
แม้ว่า Aquaman ภาคแรก จะทำร้ายได้ทั่วโลกสูงถึง $1.15 พันล้าน หนังดีซีที่ทำรายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมา แต่แหล่งข่าวบอกว่าหนังภาคต่อกลับต้องเผชิญกับความท้าทายนอกเหนือจากข่าวฉาวของเฮิร์ด นั่นคือการแก้หนังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะการเปลี่ยนผ่านของผู้บริหารในองค์กร อีกทั้งยังต้องการการถ่ายซ่อมอีกประมาณ 1 สัปดาห์ แต่เกิดการนัดหยุดงานของสมาคมนักแสดงแห่งอเมริกาที่ปัจจุบันก็ยังไม่สิ้นสุดลง
“หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนเสียงสะท้อนของระบอบ มันเป็นซากสุดท้ายของสไนเดอร์เวิร์ส ไม่มีใครอยากเอามันมาเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ“ แหล่งข่าวกล่าว
วาไรตี้ยังบอกอีกว่า นักแสดงนำของ แซ็ค สไนเดอร์ จากหนัง Batman v Superman: Dawn of Justice และ Justice League อย่าง เฮนรี่ คาวิล, เบน แอฟเฟล็ค, กัล กาด็อท, เอซรา มิลเลอร์ และ เจสัน โมมัว จะไม่ได้กลับมารับบทเดิมในจักรวาล DCU ของ เจมส์ กันน์ แต่โมมัวอาจเป็นคนเดียวที่ได้ไปต่อ แต่ในฐานะบท โลโบ ที่ถ้าไม่ได้อยู่ในหนัง Superman: Legacy ก็อาจจะได้มีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเอง
ปัจจุบันหนัง Aquaman and the Lost Kingdom มีกำหนดฉาย 21 ธันวาคมนี้