เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สตีเฟน วิลสัน ผู้พิพากษาประจำเขตของสหรัฐฯ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกคำตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับหนัง Yesterday ปี 2019 ว่าสตูดิโอหนังสามารถถูกฟ้องร้องภายใต้กฎหมายโฆษณาเกินจริงได้ หากพวกเขาปล่อยตัวอย่างหนังที่หลอกลวงคนดูออกมา
เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่มีแฟนๆ ของ อนา เดอ อาร์มัส สองคนยื่นฟ้องยูนิเวอร์แซล โดยกล่าวหาว่าพวกเขาเช่าหนังเรื่องนี้หลังจากเห็นอาร์มัสในตัวอย่าง แต่พอเปิดดูจริงๆ ก็พบว่าเธอถูกตัดออกไปจากหนังฉบับสุดท้าย
ยูนิเวอร์แซลพยายามอ้างว่าตัวอย่างหนังมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองภายใต้บทบัญญัติเพิ่มเติม ตัวอย่างเป็นงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวในความยาว 3 นาทีเพื่อสื่อถึงสิ่งที่หนังต้องการจะบอก และไม่ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็น “คำพูดเชิงพาณิชย์”
แต่วิลสันปัดตกข้อโต้แย้งนั้น “ยูนิเวอร์แซลพูดถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์และดุลยพินิจของคนตัดต่อ แต่ความคิดสร้างสรรค์นี้ไม่ได้สำคัญเกินไปกว่าลักษณะเชิงพาณิชย์ของตัวอย่าง โดยหลักการแล้ว ตัวอย่างคือโฆษณาที่ออกแบบมาเพื่อขายภาพยนตร์ด้วยการให้ผู้บริโภคดูตัวอย่างภาพยนตร์ก่อน”
อย่างไรก็ดี ยูนิเวอร์แซลยังแย้งอีกว่าการตีให้ตัวอย่างเป็น “คำพูดเชิงพาณิชย์” อาจนำไปสู่การฟ้องร้องจากผู้ชมที่ไม่พอใจหนัง เพราะอาจกล่าวอ้างได้ว่าหนังไม่เป็นไปตามความคาดหวังที่ตัวอย่างสร้างขึ้น
แต่วิลสันกล่าวว่ากฎหมายโฆษณาเกินจริงมีผลบังคับใช้เฉพาะเมื่อผู้ชมจำนวนมากอาจถูกหลอก ดังเช่นที่ผู้ชมจำนวนมากคาดหวังว่าอาร์มัสจะอยู่ในหนัง Yesterday ตามที่ตัวอย่างบอก
เดิมทีแล้วอาร์มัสจะอยู่ในหนังในฐานะคนที่ตัวเอกชอบ แต่มือเขียนบท ริชาร์ด เคอร์ติส อธิบายว่าสาเหตุที่ตัดเธอออกไปเป็นเพราะผู้ชมในรอบทดสอบไม่ชอบไอเดียที่ตัวเอกหันเหไปสนใจหญิงอื่นนอกจากนางเอกหลักที่รับบทโดย ลิลี เจมส์