เคต วินสเลต (Titanic) เคยเล่าว่าตอนที่เธอกำลังถ่ายหนัง The Dressmaker ในประเทศออสเตรเลีย เธอได้ถามช่างแต่งหน้าทำผมที่เธอรู้จักว่าจะทำอะไรต่อหลังงานนี้ ช่างคนนั้นก็บอกว่าเธอถูกเรียกให้ไปทำงานในกองถ่ายหนัง Steve Jobs (2015) ที่มีบทนึงยังไม่ได้นักแสดงอยู่พอดี ซึ่งตอนแรกแค่ได้ยินว่า แดนนี่ บอยล์ เป็นคนกำกับ และเขียนบทโดย แอรอน ซอร์กิน ก็ทำให้เธอสนใจแล้ว แต่พอได้รู้ว่าหนังถูกเขียนให้มีทั้งหมด 3 องก์และแต่ละองก์จะโฟกัสไปที่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสตีฟ จ็อบส์ ก็ยิ่งทำให้เธอสนใจมากขึ้นไปอีก
วินสเลตเลยตั้งใจว่าเธอจะต้องได้บท โจแอนนา ฮอฟฟ์แมน นักการตลาดผู้เป็นมือขวาของจ็อบส์มาครอง แต่ติดอยู่ตรงปัญหาเดียวคือเธอดันมีหน้าตาไม่เหมือนฮอฟฟ์แมนเลย
“เราค้นกูเกิลดูว่าเธอมีหน้าตาเป็นยังไง มีรูปภาพของเธอบนเน็ตอยู่ไม่กี่รูป ฉันบอก ‘แหงล่ะ ฉันดูไม่เหมือนเธอแม้แต่นิดเดียว สุดยอดไปเลย'”
แต่ถึงอย่างนั้นวินสเลตก็ไม่ถอดใจ เธอโทรหาคุณสามีทันทีเพื่อขอให้เขาซื้อวิกผมสีน้ำตาลเข้มทั้งสั้นและยาวมาให้เธอ เธอสวมวิกเหล่านั้นแล้วถ่ายรูปตัวเองส่งให้ผู้อำนวยการสร้าง สก็อต รูดิน ได้เห็น
“ฉันใส่วิกและล้างเครื่องสำอางออกทั้งหมด แล้วถ่ายรูปตัวเอง โชคดีที่ฉันมีอีเมลของสก็อต รูดิน ฉันเลยส่งรูปไปให้เขาดูแบบไม่ใส่หัวข้ออีเมล์ สักพักก็มีคนโทรมาบอกว่า โอเค โอเค ให้แดนนี่มาเจอเคทในออสเตรเลียได้ไหม ฉันนี่แบบ ‘เวรล่ะ ฉันทำอะไรลงไป’ พวกเขาส่งบทมาให้ฉัน ทันใดนั้นฉันก็คิดว่านี่มันอเมซิ่งมาก ฉันอยากเล่นบทนี้จริงๆ”
“พอฉันไปเจอแดนนี่ ฉันบอก ‘ฉันเล่นบทนี้แบบนี้ ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนแบบนี้’ จากนั้นเขาก็บอกว่า ‘ผมอยากให้คุณเล่นบทนี้’ ในอีก 3 สัปดาห์ครึ่งต่อมา ฉันก็ได้ไปที่ห้องซ้อมในซานฟรานซิสโก เราซ้อมแต่ละฉากและถ่ายตามลำดับตั้งแต่ต้นจนจบ”
วินสเลตเล่าต่อว่าเธอมีโอกาสได้เจอกับฮอฟฟ์แมนตัวเป็นๆ ด้วย ซึ่งนอกจากเธอจะได้เรียนรู้สำเนียงของฮอฟฟ์แมนแล้ว (แต่วินสเลตทำเลียนแบบไม่ได้ เพราะฮอฟฟ์แมนมีสามสำเนียงผสมๆ กัน คือโปแลนด์ รัสเซีย และอเมริกา) เธอยังได้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างฮอฟฟ์แมนและจ็อบส์ด้วย
“สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอไม่เหมือนใครในฐานะที่เป็นคนสำคัญในชีวิตของสตีฟ คือเธอไม่ต้องการอะไรจากเขา เธอแค่อยากให้เขาเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเขาเอง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแตกต่างจากความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ”
สุดท้ายหนัง Steve Jobs ก็ทำให้ เคต วินสเลต เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (ผู้ชนะในปีนั้นตกเป็นของ อลิเซีย วิกันเดอร์ จาก The Danish Girl)
ที่มา businessinsider, vulture
