เป็นประเด็นร้อนอีกครั้งสำหรับปัญหาเบื้องหลังกองถ่าย ล่าสุดมาถึงคิวของ Men in Black: International หนังปลุกแฟรนไชส์ของโซนี่ ที่เพิ่งเปิดตัวแป๊กในบ้านไปด้วยตัวเลขเพียง $30 ล้าน ในขณะที่ภาคก่อนหน้าล้วนเปิดตัวเกิน $50 ล้าน
ขอท้าวความมาช่วงเริ่มต้นโครงการ ตอนนั้นโซนี่ต้องการสร้างหนังครอสโอเวอร์ของหนังระหว่าง Men in Black และ Jump Street แต่ผู้อำนวยการสร้างฝั่ง Jump Street ปฏิเสธที่จะร่วมพัฒนาโครงการนี้ โซนี่จึงหันมาคิดทำ Men in Black 4 ที่ต้องการดาราดั้งเดิมอย่าง วิล สมิธ และ ทอมมี่ ลี โจนส์ กลับมาอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดทางค่ายเห็นว่าหนังจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงเกินไปและไม่เป็นการมองการไกล พวกเขาจึงเปลี่ยนทิศทางมาทำหนังยกเครื่องใหม่แทน
หลังจากความประสบความสำเร็จของ Thor: Ragnarok และเคมีดาราระหว่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ กับ เทสซ่า ทอมป์สัน ทำให้โซนี่เล็งเห็นพลังดาราและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อแฟรนไชส์ได้ดี มือเขียนบท อาร์ท มาร์คัม และ แมตต์ ฮอลโลเวย์ จึงถูกดึงตัวมาเขียนบทเพื่อโน้มน้าวดารา ซึ่งผลออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ
“บทหนังมันดีมาก คุณจะไม่สามารถดึงตัว คริส เฮมส์เวิร์ธ กับ เทสซ่า ทอมป์สัน มาได้เลย หากบทไม่ดี” คนวงในเผย
แต่แล้วสถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อ เดวิด โบแบร์ ผู้บริหารที่ดูแลโครงการนี้ได้ลาออกในช่วงหน้าร้อนปี 2018 และไม่มีใครเข้ามาแทนตำแหน่งเขา จึงเกิดสงครามวิสัยทัศน์ระหว่างผู้กำกับ เอฟ. แกรี่ เกรย์ กับผู้อำนวยการสร้างหนังไตรภาคแรก วอลเตอร์ ปาร์คส ที่ซึ่งเข้ามาดูแลโครงการแทน
บทฉบับแรกๆ ถูกอธิบายว่ามีความโลดโผนและทันสมัย เรื่องราวมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนผู้อพยพที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยมีกลุ่มนักดนตรีแบบ เดอะ บีเทิลส์ เป็นตัวร้าย และสามารถรวมร่างกันเป็นตัวเดียวได้
ถึงอย่างนั้นเรื่องราวที่ว่ามานี้กลับไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ วอลเตอร์ ปาร์คส ทำให้เขาเข้ามาแก้บทในระหว่างการถ่ายทำและได้ส่งบทใหม่ให้นักแสดงวันต่อวัน ซึ่งบทที่ถูกแก้ไขไม่ได้มีความทันสมัยอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้นักแสดงสับสน จนถึงขั้นที่เฮมส์เวิร์ธและทอมปสันต้องจ้างนักเขียนให้มาเขียนบทพูดของตัวเอง
เมื่อ วอลเตอร์ ปาร์คส เข้ามาก้าวก่ายมากขึ้นเรื่อยๆ เอฟ. แกรี่ เกรย์ จึงพยายามจะถอนตัวออกจากการกำกับหลายครั้ง แต่ทางค่ายก็ได้โน้มน้าวให้เขาอยู่ทำงานต่อจนเสร็จ คนวงในบอกว่าแม้แต่ขั้นตอนแก้ไขสี (color-correcting) ก็ยังเป็นปัญหาระหว่างผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง “วอลเตอร์เป็นทั้งคนวางเพลิงและคนดับเพลิง” คนวงในบอก
หลังจากนั้นทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในช่วงตัดต่อ ไม่มีการถ่ายซ่อมสำคัญและรอบทดลองฉาย มีเพียงแต่ฉายให้เพื่อนและคนในครอบครัวดูเท่านั้น แหล่งข่าวอ้างว่าหนังไม่ได้มีปัญหาแบบเดียวกับ Dark Phoenix ที่ต้องถ่ายซ่อมครั้งใหญ่เพื่อแก้ตัวหนังบางส่วน
หลังจากนั้นหนังถูกตัดออกเป็นสองฉบับซึ่งเป็นของเกรย์กับของปาร์คส แต่ฉบับของปาร์คสกลับถูกเลือกให้เป็นหนังฉบับสุดท้ายหรือฉบับที่เราได้ชมกัน คนวงในเผยว่าโซนี่ไม่ได้เข้ามาดูแลในกองถ่ายแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีแม้กระทั่งคำแนะนำที่จะทำให้ความขัดแย้งคลายลงไปเลย
อย่างไรก็ตาม ในวันที่โซนี่ต้องการแฟรนไชส์เพื่อความอยู่รอด ฝ่ายบริหารยืนยันว่าจะยังไม่หยุดสร้างแฟรนไชส์ชายชุดดำถึงแม้ด้านคำวิจารณ์และรายได้ออกมาย่ำแย่ก็ตาม
“การมีเอเลี่ยนวิ่งพล่านอยู่ท่ามกลางพวกเราเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม Men in Black จะกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบซีรีส์ สตรีมมิ่ง หรือหนังอีกภาค”